บทความของเรา

07
OCT
ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์ Pet Lover
ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน พร้อมทั้งปัจจัยแวดล้อมหลายๆ ด้านทำให้คนส่วนใหญ่ นิยมใช้ชีวิตแบบคนโสด หรือคนมีคู่แต่ไม่คิดมีลูก จึงทำให้ “สัตว์เลี้ยง” กลายเป็นทางเลือกที่มาแรงช่วยเติมเต็มความสุขของทุกคนในครอบครัวได้มากขึ้น ดังนั้นการมองหา “บ้าน” สักหลัง เพื่อให้ตอบโจทย์กับคนรักสัตว์จึงมีความสำคัญ วันนี้ Clickfindhome.com ได้รวบรวมไอเดียและเทคนิคการแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความสุขให้คุณมากยิ่งขึ้น และใครที่กำลังหาไอเดียดี ๆ ที่เหมาะกับการทำที่อยู่อาศัยสำหรับ Pet Lover ห้ามพลาด!! ตามมาทางนี้ได้เลย 1.แบ่งสัดส่วนในแต่ละส่วนของบ้าน ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover เพิ่มความสุขให้กับคุณ การจัดโซน หรือการแบ่งสัดส่วนบ้าน ให้เหมาะสม กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นเรื่องสำคัญ ควรสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง ให้สัตว์เลี้ยงมีพื้นที่ส่วนตัว เพื่อให้น้องๆ มีการจดจำพื้นที่ต่างๆ ที่เราได้กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ ที่กินข้าว ที่นอน หรือมุมสำหรับเล่นซน และยังเป็นการฝึกน้องๆ ให้ใช้พื้นที่เป็นสัดส่วนอีกด้วย มุมกินข้าว อาจจะเลือกมุมใดมุมหนึ่งในบ้านหรือคอนโดที่เงียบสงบ ให้กลายเป็นโซนกินข้าวส่วนตัวสุดน่ารักก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจและน่ารักไม่เบา มุมห้องน้ำ พื้นที่ขับถ่าย ต้องมีมุมสำหรับการขับถ่ายให้กับเจ้า 4 ขา แสนซน ควรจัดให้ใกล้กับบริเวณที่มีช่องระบายอากาศสู่ภายนอกได้ เพราะช่วยลดความอับชื้นและกลิ่นเหม็น แนะนำคือควรฝึกให้ขับถ่ายแบบเป็นที่ทาง หรือขับถ่ายบนกระบะทราย บนแผ่นรอง เป็นต้น แต่ถ้าไม่อยากให้มีกลิ่นภายในบ้านเลย แนะนำให้ทำห้องน้ำสัตว์เลี้ยงไว้นอกบ้านหรือระเบียง และทำประตูจิ๋วให้น้องเดินเข้าออกได้เองอย่างสบายใจ มุมวิ่งเล่นซุกซน ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงประเภทไหน ต่างก็ต้องการพื้นที่ให้ตนเองได้ผ่อนคลาย การที่แบ่งพื้นที่สำหรับการวิ่งเล่นที่เหมาะสม ให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ใช่แค่อยู่ภายในห้องหรือในกรง ดังนั้นการมีพื้นที่กลางแจ้งโอบล้อมด้วยต้นไม้ ปูหญ้าสีเขียว หรือปูพื้นตามความเหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรมี หรือถ้าพื้นที่น้อย อาจจะสร้างคอนโดแมวติดผนัง (Built-in) ให้เข้ากับสไตล์ของห้องเราเลยก็ได้ ส่วนน้องหมา อย่าลืมพาน้องออกไปเล่นข้างนอกบ้านให้เขาได้ออกกำลังกายบ้าง จะช่วยทำให้สัตว์เลี้ยงไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือเวลาทำงานของคุณ เพราะสัตว์เลี้ยงก็ล้วนอยากออกไปสูดอากาศดีๆ เหมือนกันกับเรา มุมรับแสงดูวิว ให้สัตว์เลี้ยงของคุณ ได้มีมุมสำหรับคลายเครียด ในกรณีที่ไม่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงตลอดเวลา การได้ชมวิวทำให้สัตว์เลี้ยงไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่ต้องอยู่บ้านโดยไร้เจ้าของ ได้มองผู้คนหรือการเคลื่อนไหว อื่นๆ ผ่านกระจกก็ทำให้รู้สึกไม่เหงาเกินไป มุมพักผ่อนหย่อนใจ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ ใช้เวลาประมาณ 70% ของชีวิตไปกับการนอน ดังนั้นต้องเตรียมมุมต่าง ๆ ให้พวกเขานอนอย่างสบายใจ แมวมักชอบที่นอนมีขอบ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนได้รับการปกป้องยามรู้สึกอ่อนแอ หากเป็นไปได้คุณจึงควรซื้อที่นอนทรงโดมและวางให้สูงจากพื้น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ให้แมทช์กับสัตว์เลี้ยงของคุณ  การทำที่อยู่อาศัยสำหรับ Pet Lover อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือเฟอร์นิเจอร์ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เสียหายง่ายและง่ายต่อการดูแลสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น โซฟาที่ทนทานต่อการข่วนจากสัตว์ ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ขนสัตว์ เพราะอาจทำให้เจ้าของเจ็บป่วยได้ สามารถทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ เช่น หนังเทียม เป็นต้น ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover อีกสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ “พื้นบ้าน” ต้องเหมาะกับสัตว์เลี้ยง การเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานและไม่กัดกร่อนง่าย เช่น กระเบื้องยางไวนิลที่มีความหนืดแต่ยืดหยุ่น ช่วยซับแรงกระแทกได้ หรือจะเป็นพื้นไม้ SPC (กระเบื้องยาง) ที่ทนต่อความชื้น ไม่ลื่นง่าย ให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง อีกทั้งยังง่ายต่อการทำความสะอาด รวมไปถึงวัสดุที่สามารถกันเสียงรบกวนที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันการรบกวนเพื่อนบ้าน ระบายอากาศได้ดี สัตว์เลี้ยงอารมณ์ดีได้อีก ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover อีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป คือการระบายอากาศภายในบ้านหรือคอนโดให้มีการถ่ายเทที่ดี มีหน้าต่างเปิดรับให้ลมธรรมชาติถ่ายเทสะดวก ซึ่งอาจจะเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่และม่านโปร่ง ที่ทำให้รู้สึกโล่งสบาย ปลอดโปร่ง มีแสงแดดเข้าถึงบ้างในเวลา เพื่อให้บรรยากาศในบ้านมีความสดชื่นและสะอาด ช่วยลดปัญหากลิ่นและความอับชื้นภายในบ้าน แถมทำให้ทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลายจนอารมณ์ดีได้อีกด้วย สร้างสวนในบ้าน ให้สัตว์เลี้ยงของคุณ เลือกต้นไม้ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงและสามารถปลูกในร่มได้ อาจใช้กระถางสูงหน่อยเพื่อกันเจ้าจอมซนมาคุ้ยดินเล่น Clickfindhome.com จะขอแนะนำ ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover นั่นก็คือ ต้นไม้แมวกินได้ ที่นอกจากเจ้าเหมียวจะสามารถแทะเล่นได้แล้วนั้น ยังมีคุณประโยนช์มากมายอีกด้วย จะมีต้นไม้อะไรบ้าง มาดูกันเลย ต้นไม้แมวกินได้ ปลูกง่าย มีประโยชน์ ตกแต่งบ้านได้ ปกติแล้วเมื่อสัตว์เลี้ยงของเราป่วย หรือไม่สบาย ก็จะพยายามรักษาตัวเองทันที ด้วยการออกไปกินหญ้านอกบ้าน เพื่อให้อาเจียนขับพิษออกมา แล้วจะดีกว่าไหม? ถ้าบ้านของคุณปลูกต้นไม้ที่สัตว์เลี้ยงของเราสามารถกินได้ มีคุณค่าสารอาหาร และสามารถรักษาอาการไม่สบายได้ ก็จะทำให้น้องสุขภาพดี แข็งแรงและผ่อนคลายอารมณ์ดี วันนี้เราขอแนะนำต้นไม้แมวกินได้ให้เพื่อนๆมาปลูกตามกัน โดยแต่ละสายพันธุ์ก็เติบโตง่ายมาก แม้จะมีพื้นที่จำกัดอย่างคอนโด ก็สามารถปลูกได้ง่ายๆ  ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheat Grass) ต้นอ่อนข้าวสาลี เป็นส่วนประกอบทั่วไปที่พบได้ในอาหารแมวส่วนใหญ่ อุดมไปด้วยโปรตีน แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี โดยแมวมักจะเคี้ยวต้นอ่อนข้าวสาลีหรือต้นหญ้าเพื่อบรรเทาอาการท้องผูกและอาหารไม่ย่อย เส้นใยที่อยู่ในพืชเหล่านี้ช่วยให้การขับถ่าย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเจ้าเหมียวอีกมากมาย ช่วยลดน้ำหนัก การให้ต้นอ่อนข้าวสาลีแทนการให้ขนมตามปกติ จะช่วยให้การควบคุมน้ำหนักของแมวดียิ่งขึ้น เสริมระบบภูมิคุ้มกัน หนึ่งในประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลีคือคุณค่าทางโภชนาการ ว่าถือเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยม เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน ไฟเบอร์ และโปรตีน ซึ่งส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของแมว เสริมสุขภาพช่องปากและฟัน ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากเป็นอาหารออร์แกนิก ไม่ทำให้ฟันผุหรือฟันแตก เสริมการมองเห็น ต้นอ่อนข้าวสาลีมีวิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการมองเห็นและบำรุงดวงตา ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint) เป็นพืชสมุนไพรที่เป็นนิยมอย่างมาก โดนเฉพาะกลิ่นที่ช่วยความสดชื่นได้เป็นอย่างดี เปปเปอร์มินต์ยังสามารถปลูกได้ง่าย เพียงแค่ปักชำลงบนดินร่วนเท่านั้น แล้วหมั่นรดน้ำเช้า เย็น พร้อมได้รับแสงแดดที่เพียงพอ ต้นเปปเปอร์มินต์ของคุณก็จะเจริญงอกงาม พร้อมให้เจ้าเหมียวของคุณรับประทานเล่นได้แล้ว สิ่งที่ดึงดูดเจ้าเหมียวของคุณก็คือกลิ่นของต้นเปปเปอร์มินต์ ที่มีความคล้ายคลึงกับกลิ่นฟีโรโมนของแมว เวลาแมวของคุณได้กลิ่นนี้ ยังช่วยให้สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้แมวของคุณไม่เครียด หากแมวของคุณรับประทานใบเปปเปอร์มินต์เข้าไป ก็มีฤทธิ์ละลายเสมหะและขับของเสียในร่างกายของแมวคุณได้ ต้นแคทนิป (Catnip) แคทนิป หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า เนเปตาแคตารียา (nepeta cataria) ซึ่งคนไทยรู้จักกันในชื่อ กัญชาแมว เป็นพืชสมุนไพรตระกูลมินต์ มีลักษณะเป็นพืชไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นขนาดเล็ก สีเขียวอมน้ำตาล ใบของต้นแคทนิปจะเป็นรูปไข่ ฟันใบรูปสามเหลี่ยม ผิวไม่เรียบ ขรุขระเล็กน้อย ดอกลักษณะเล็กสีขาว ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นพืชที่มีกำเนิดมาจากทวีปเอเชียและยุโรป และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ความพิเศษของต้นแคทนิปเลยก็คือ มีสารที่ชื่อ Nepetalactone ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารหอมระเหยอ่อน ๆ จะอยู่ตรงบริเวณใบและลำต้น สารนี้เองนี่แหละที่ทำให้ ต้นแคทนิปถูกขนานนามว่าเป็น “กัญชาแมว” แล้วแคทนิปหรือกัญชาแมวนั้นดีต่อแมวหรือไม่? คำตอบคือใช่! ซึ่งช่วยให้น้องแมวของคุณนั้นสดชื่น มีความสุขและรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อรับประทานหรือสูบดมเข้าไป แต่ทาสทั้งหลายไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะสารระเหยดังกล่าวนั้นจะออกฤทธ์เพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าเหมียวของคุณก็จะกลับเป็นปกติดังเดิม เนเปตาแล็คโทน จะเข้าไปกระตุ้นประสาทรับความรู้สึกซึ่งทำให้แมวมีอาการเคลิบเคลิ้ม การบดใบและลำต้นกัญชาแมวจะปล่อยสาร เนเปตาแล็คโทน ออกมา โดย เนเปตาแล็คโทน สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายวิธี แต่เนื่องจากแมวส่วนใหญ่ชอบเคี้ยวต้นแคทนิป สารเคมีจึงเข้าร่างกายของแมวทางปาก นอกจากนี้ เนเปตาแล็คโทน และยังสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านการสูดดมด้วย วิธีการปลูกต้นแคทนิปก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่โรยเมล็ดแคทนิป ลงไปบนดินที่มีลักษณะร่วนปนทราย แล้วหมั่นรดน้ำทุกวัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ต้นแคทนิปหรือกัญชาแมวของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นตำแยแมว (Indian Acalypha) ต้นตำแยแมว สามารถเจริญเติบโตได้ด้วยตัวเองได้ตามธรรมชาติ ตามไม้ที่ผุพัง หรือโคนต้นไม้ หากมองผิวเผินก็เป็นวัชพืชที่พบเห็นได้ทั่วไป ลักษณะของต้นสูงประมาณ 1-2 ฟุต มีลักษณะเป็นไม้ยืนขนาดเล็ก มีใบไม่ใหญ่ รูปกลม มนทรงไข่ ปลายใบหยักเล็กน้อย รากมีฤทธิ์เป็นยาถอนพิษที่สามารถช่วยขับสิ่งไม่ดีในร่างกายแมวออกไปได้ ความแตกต่างของตำแยแมว กับต้นแคทนิปหรือกัญชาแมว นั่นก็คือ ความพิเศษของต้นตำแยแมวจะอยู่ที่ส่วนราก นอกจากรากที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ลำต้นยังช่วยเป็นยารักษาอาการป่วยไข้ได้อีกด้วย แต่กัญชาแมวจะใช้ส่วนของใบ แต่ทั้งสองต้นนี้มีสรรพคุณที่คล้ายคลึงกัน ก็คือ มีสารคล้ายต้นแคทนิปที่สามารถช่วยให้แมวเคลิบเคลิ้ม มาคลอเคลียได้ เหมาะกับการเพาะปลูกในบ้านที่มีเจ้าเหมียวสุดๆ ต้นไผ่เงิน (Silver Bamboo) ต้นไผ่เงิน เป็นพืชตระกูลไผ่ ลำต้นมีสีเขียว ขนาดเล็ก ชอบน้ำและแสงแดดมาก แต่ก็ควรทิ้งไว้ให้รับแดดนานๆ เพราะอาจส่งผลให้ใบแห้งได้ สามารถปลูกประดับตกแต่งภายในบ้าน มีประโยชน์เรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยสมานบาดแผลในกระเพาะและลำไส้ รวมถึงยังช่วยขับก้อนขนที่อุดตันในร่างกายได้อีกด้วย วิธีเพาะปลูกที่เป็นที่นิยมเลยก็คือ การแยกกอแล้วปลูกลงดินได้เลย ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ หมั่นรดน้ำบ่อยๆ เหมาะกับการเพาะปลูกในบ้านที่มีเจ้าเหมียวสุดๆ ต้นตะไคร้หอม (Citronella) ต้นตะไคร้หอม เป็นไม้ล้มลุก ตระกูลเดียวกับหญ้าใบมีลักษณะเรียวยาว มีขนอ่อน ๆ ต้นและใบนั้น มีกลิ่นหอมฉุนเกินไปไม่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารไม่เหมือนตะไคร้แกงที่เรารับประทานกัน แต่กลับเป็นพืชที่แมวชื่นชอบชนิดหนึ่ง ที่เราควรปลูกไว้ ต้นตะไคร้หอมสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอึด ท้องเฟ้อให้แก่แมวได้ รวมถึงยังช่วยบำรุงร่างกายแมวของคุณ แก้อาการเบื่ออาหาร ให้แมวของคุณไม่เป็นซึมเศร้า วิธีที่ง่ายที่สุดในการเพาะต้นตะไคร้หอม โดยสามารถทำได้โดยการตัดโคนขนาดประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วปักลงบนดินร่วน ห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร เพียงเท่านี้ต้นตะไคร้หอมก็จะค่อยๆ แตกใบออกเองตามธรรมชาติ เป็นพืชที่ต้องการน้ำและแดดในการเจริญเติบโต อีกทั้งยังมีรากฝอยสามารถเติบโตได้ในทุก ๆ สภาพดิน ต้นวาเลอเรียน  (Valerian) ต้นวาเลอเรียนเป็นพืชสมุนไพรจากทวีปยุโรป ที่เป็นที่รู้จักในฐานะสารสกัดในการสร้างยานอนหลับ ต้นวาเลอเรียนเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถสูงได้ถึง 1.5 เมตรเลยทีเดียว ดอกวาเลอเรียนจะมีกลิ่นหอมพิเศษ ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่น นิยมเอามาสกัดเป็นยาคลายเครียดและยานอนหลับแก่มนุษย์ได้ ต้นวาเลอเรียน ยังมีสารที่สามารถเป็นสารให้ความสุขแก่เจ้าเหมียวได้อีกด้วย โดยที่บริเวณรากของต้นวาเลอเรียน จะมีกลิ่นคล้าย ๆ กับฟีโรโมนของแมว ช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย ต้นคาโมมายล์ (Chamomile) ต้นคาโมมายล์ เป็นพืชไม้ดอกที่สวยงามและนิยมนำมาตากแห้งทำเป็นชา สามารถรับประทานต้นคาโมมายล์ได้ทั้งน้องแมวและคนเลี้ยง ซึ่งคาโมมายล์มีส่วนช่วยในการบรรเทาความเครียดให้แก่น้องแมวของคุณได้ อีกทั้งยังสารที่ช่วยให้กระตุ้นทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในร่างกายของแมวและขับของเสียออกจากร่างกายได้ ที่คุณก็สามารถปลูกเองได้ง่าย ๆ ได้ที่บ้าน วิธีการปลูกต้นคาโมมายล์ สามารถเพาะเมล็ดได้เพียงแค่โรยบนดินร่วน แล้วฉีดละอองน้ำให้พอชุ่มเบาๆ โดยต้นอ่อนคาโมมายล์ไม่ชอบแดดจัด เพราะฉะนั้นจึงควรดูแลในที่มีแดดอ่อน อากาศไม่ร้อนมาก รอให้เพาะกล้าออกมาได้ก่อน แล้วจึงค่อยนำลงดินแล้วเลี้ยงดูตามปกติ หญ้าแพรก (Bermuda Grass) หญ้าแพรก เป็นพืชจําพวกไผ่ มีขนาดเล็กลำต้นสีเขียว มองเห็นข้อปล้อง ชัดเจน ผิวใบค่อนข้างสาก มีสีเขียวสลับ กับแถบสีขาว หญ้าแพรกถือเป็นแหล่งอาหารของสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ใช่แค่น้องแมวเท่านั้นที่ชอบรับประทาน เพราะหญ้าแพรกมีกรดโฟลิกที่ช่วยในการบำรุงเม็ดเลือดแดงของสัตว์ และมีไกลโคไซด์ (Glycoside)  ที่ช่วยลดความดันโลหิตของน้องแมวได้ด้วย อีกทั้งช่วยขจัดก้อนขนในกระเพาะ โดยเจ้าใบไผ่เงินนี้จะเข้าไปเกาะกับก้อนขน ในทางเดินอาหารของแมวซึ่งหาก ปล่อยไว้นานจะทําให้มีปัญหาในระบบ ทางเดินอาหารได้ การกินไผ่เงินจะทําให้ แมวสามารถขย้อนก้อนขนออกมาได้ ง่ายขึ้น พาร์สลีย์ (Parsley) พาร์สลีย์เป็น ผักใบเล็ก สีเขียวขอบหยักคล้ายๆ กับผักชีใบเล็ก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว พาร์สลีย์นี้เป็นผักที่อุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารมากมาย ถึงส่วนมากจะเน้นในการตกแต่งจาน เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วผักชนิดนี้มีประโยชน์มากๆ พาร์สลีย์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของไต มีสารขับปัสสาวะ และ มีธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และ ช่วยขับสารพิษที่สะสมในร่างกายของน้องแมวได้อีกด้วย วิธีการดูแลความสะอาดสำหรับ ไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง นั่นก็คือกลิ่นที่ไม่ประสงค์ และสิ่งสกปรก ขั้นตอนการดูแลรักษาความสะอาด ก็ไม่ค่อยยุ่งยาก แต่อาจจะมีข้อควรระวังในบางเรื่องดังนี้ หมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ควรทำความสะอาดพื้น บริเวณที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่เป็นประจำควรทำทุกวัน เพื่อลดจำนวนขนสัตว์เลี้ยงที่ร่วงหล่นในบ้าน ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เลือกใช้ ของตกแต่งบ้านที่ทำมาจากวัสดุที่ทนทาน โซฟาที่ออกแบบมาเพื่อ Pet Friendly โดยเฉพาะ หุ้มด้วยผ้าที่กันขนสัตว์ กันน้ำ ถอดซักง่าย สะดวกสบาย และที่สำคัญควรเน้นโซฟาที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ผ้าม่านหรือผ้าห่ม ควรมีคุณสมบัติไม่ดักจับขนสัตว์และกลิ่นอับ  และมีความลื่นจึงทำให้ไม่เกี่ยวกับฟันหรือเล็บของสัตว์เลี้ยงจนเกิดความเสียหาย และมีความทนทาน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง ป้องกันการสะสมของเชื้อโรค รวมถึงการระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ หรือน้ำหอมที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง "ในปัจจุบันนี้กลุ่ม Pet Lover ที่ชื่นชอบในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง แต่มีอัตราการแต่งงานลดน้อยลง คนโสดมากขึ้น มีลูกน้อยลง รวมถึงสังคมผู้สูงอายุมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งที่ทําให้มีการอัตราการเลี้ยงสัตว์ในบ้านหรือคอนโดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ” จากข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (TTB Analytics) คาดการว่ามูลค่าของตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยในปี 2567 จะปรับเพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2566 เป็นเทรนด์อีกหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน สรุปไอเดียแต่งบ้าน เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง Pet Lover บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง การดูแลรักษาความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ และต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้บ้านมีบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับทุกคนที่ต้องอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พร้อมเพิ่มความสุข และคุณภาพชีวิตของทุกๆ คนในครอบครัว ช่วงนี้ใครมีแพลนอยากจะซื้อบ้านมือสอง Clickfindhome.com มีบ้านหลายแบบให้ได้เลือกดูเลือกซื้อกัน ตั้งแต่บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ไปจนถึงบ้านขนาดเล็ก ทาวน์เฮ้าส์หรือทาวน์โฮม คอนโด อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือที่ดิน เป็นต้น บ้านเดี่ยว “หากคุณเป็นคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ บ้านเดี่ยวก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของคุณนั่นเอง” Clickfindhome.com เรามี บ้านมือสอง ให้ทุกท่านได้ตัดสินใจเลือกซื้อมากมาย ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ในสไตล์บ้านเดี่ยวที่ถูกลดพื้นที่ลง เหมาะสำหรับ คนโสด คนที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร หรือราวๆ สูงสุด 3-4 คนเท่านั้น คนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากกว่าคอนโดแต่ก็ไม่ต้องการดูแลพื้นที่บริเวณหน้าบ้านมากนัก Clickfindhome.com พร้อมตอบโจทย์สำหรับ คนที่กำลังมองหา ทาวน์โฮมมือสอง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกๆ ครอบครัว คอนโดมิเนียม คอนโด เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยทำเลใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แนวรถไฟฟ้า มีหลากหลายราคา ตามทำเลและขนาดห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส หรือบริการส่วนกลางต่าง ๆ
07
OCT
บางนา สมุทรปราการ ทำเลน่าอยู่ Mega Project ขึ้นเพียบ
ฉุดไม่อยู่ บางนา สมุทรปราการ ทำเลน่าอยู่ Mega Project ขึ้นเพียบ ทำเลที่กำลังเป็นที่จับตามองของเหล่า Developer นั่นก็คือ ย่าน “บางนา-สมุทรปราการ” นั่นเอง ซึ่งในตอนนี้มี Mega Project เกิดขึ้นมากมาย และมีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตอีกมากจากความเจริญของเส้นทางคมนาคม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะดึงดูดความต้องการของผู้บริโภค แล้วยังเข้ามาเติมเต็ม Life Style ของผู้คนในย่านนี้มากขึ้น “บางนา” ทำเลทองคำที่กำลังกลายเป็น THE NEXT Eastern CBD of Bangkok ฉุดไม่อยู่ บางนา สมุทรปราการ ทำเลน่าอยู่ Mega Project ขึ้นเพียบ พื้นที่แห่งโอกาสและศักยภาพ “ศูนย์กลางทางธุรกิจ” แห่งใหม่ การเติบโตอย่างรวดเร็วของบางนา ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นทำเลทองที่น่าสนใจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน เป็นพื้นที่เป้าหมายของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ The Forestias by MQDC โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับ world class ที่ใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาท เป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติ เพื่อการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น The Forestias โครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ย่านบางนา บนพื้นที่กว่า 398 ไร่ ใกล้ Mega Bangna จาก MQDC MQDC เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลบางนาที่มีการเติบโตสูง ที่ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ยังมีโอกาสในการพัฒนาและเติบโตได้มากขึ้นอีกในอนาคต ทำเลบางนาเป็นที่ตั้งของโครงการ The Forestias by MQDC โครงการเมืองแห่งความสุขพร้อมที่พักอาศัยบนผืนป่า รวมโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Intergeneration หลากหลายโครงการ ออกแบบเพื่อให้ทุกคน ทุกวัย ได้อยู่และทำกิจกรรมร่วมกัน ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์วิสซ์ดอมและมัลเบอร์รี โกรฟ ที่อยู่อาศัยแบรนด์มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า ดิ แอสเพน ทรี และซิกส์เซนส์ รวมถึงโรงแรมแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ Family Center และ Town Center สำหรับกิจกรรมของชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น โรงละคร อีเวนต์ฮอลล์ และตลาด MQDC Whizdom The Forestias คอนโดมิเนียมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ถูกออกแบบอย่างใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อคุณภาพที่ดีของการใช้ชีวิต มี 3 อาคาร พร้อมตอบโจทย์คนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ครอบครัวรุ่นใหม่และคนรักสัตว์เลี้ยง Mulberry Grove The Forestias วิลล่าและคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ที่ออกแบบพื้นที่ให้ครอบครัวมีความสุขร่วมกันอย่างลงตัว The Aspen Tree The Forestias โครงการที่พักอาศัยแนวคิดใหม่ที่แรกและที่เดียวในโลกที่มาพร้อมบริการด้านการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ Lifetime Care ที่ดูแลผู้อยู่อาศัยตลอดชีวิต Six Senses Residences The Forestias นิยามใหม่ของ The New Luxury Living วิลล่าสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกของ Six Senses ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้การบริหารจัดการโดย Six Senses The Forestias Signature Series โครงการที่สะท้อนถึงดีเอ็นเอของ The Forestias ในการอยู่อาศัยบนพื้นที่กว้างร่วมกันกับป่าและธรรมชาติ ด้วยยูนิตขนาดใหญ่ที่ได้เห็นวิวพาโนรามาของผืนป่า เดอะ ฟอเรสเทียส์ และมาพร้อมกับ Private Lift Lobby Happitat at The Forestias จุดหมายแห่งใหม่ของความสุขเหนือจินตนาการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชั่น เต็มไปด้วยประสบการณ์พิเศษต่าง ๆ ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ทุกโครงการเป็นโครงการคุณภาพ ภายใต้แนวคิด For All Well-Being ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับทุกสิ่งบนโลก ที่จะช่วยยกระดับ “บางนา” ให้เติบโตมากขึ้น ความผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและธรรมชาติที่ลงตัว ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ เป็นโครงการแรกที่หลอมรวมผืนป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ ให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ โดยต้นไม้ทุกต้นเริ่มปลูกตั้งแต่เป็นเมล็ดและต้นกล้า เพื่อความหลากหลายและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศ เพราะ “ผืนป่า” คือหัวใจสำคัญของโครงการ และยังเป็นส่วนที่เปิดให้ศึกษาระบบนิเวศ ซึ่งมีรายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆในป่า “ผืนป่า” จะทำหน้าที่เป็น “ปอดสีเขียว” ให้แก่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ และชุมชนโดยรอบ ส่งผลต่อความเย็นและอุณหภูมิในแต่ละวันของพื้นที่ ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติมีความเป็นมิตรต่อโลกผ่านระบบพลังงานที่ล้ำสมัย ทำให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมหาศาลหรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 30,000 ไร่ ที่จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ทางโครงการได้ดำเนินการปลูกต้นไม้บริเวณรอบถนนในโครงการ โดยส่วน North Plot ได้ทำการปลูกต้นไม้แล้วเสร็จ 100% ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและเป็นต้นไม้เดิมที่เคยอยู่บริเวณบางนาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศได้ทำการศึกษาแล้วพบว่ามีความเหมาะสมกับดินในบริเวณโครงการ สำหรับพันธุ์ไม้ที่นำมาปลูกจะเป็นกล้าไม้ที่เพาะจากเมล็ดและแบบไม้ยืนต้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นไม่เกิน 8 นิ้ว เช่น ต้นพะยอม หรือไม้พุ่ม เช่น ต้นกาหลง และไม้คลุมดิน เช่น ต้นอ่อมแซ่บ เป็นต้น ทำเลบางนา การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยทางพิเศษที่หลากหลาย บนทำเลที่คุณคุ้นเคย  ทางพิเศษบูรพาวิถี เชื่อมต่อ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร – ทางพิเศษสาย S1 ทางพิเศษกรุงเทพ – ชลบุรี สายใหม่ (มอเตอร์เวย์) ทางด่วนพระราม 9 – มอเตอร์เวย์ ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก – วงแหวนใต้) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียวเข้ม) และ Airport Link (เชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิเข้าสู่พญาไท)   สุดยอด Mega Project อื่นๆ บนทำเลบางนา ในอนาคตอันใกล้ บางนาจะเป็นศูนย์รวมธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยพื้นที่ทั้งสองข้างทางเส้น บางนา-ตราด เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต่างทยอยเปิดตัวหลายอภิมหาโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่อาศัยในย่านนี้ได้อย่างคึกคัก จนเห็นได้ว่ามีการพัฒนาขึ้นหลายด้านในเวลาไล่เลี่ยกัน Bangkok Mall ศูนย์การค้าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Central Village Siam Premium Outlet Bangkok Mega City Bangna  โครงการ Trust City  โครงการ สุวรรณภูมิเฟส 2  โครงการ รถไฟฟ้าสายสีฟ้าอ่อนหรือรถไฟฟ้าไลท์เรล (Light Rail) สายบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ (เฟส 1 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2568)
05
OCT
สีไหนทาบ้านแล้วปังเฮงๆ อัปเดทสีมงคล สายมู เสริมดวง เรียกทรัพย์
อัปเดทสีมงคล สายมู เสริมดวงชีวิต เรียกทรัพย์ เสริมโชค เพิ่มความเฮงคูณสอง ด้วยสีบ้านมงคล ใครที่กำลังมองหาไอเดียแต่งบ้าน แนะนำให้ลองดูบทความนี้ สีมงคลตรงกับราศีของตัวเอง หรือวันเกิดของเจ้าของบ้าน ที่จะช่วยเสริมดวงด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเงิน การงาน สุขภาพ และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมถึง สีที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันอุปสรรคในการดำเนินชีวิต แต่สุดท้ายแล้วเราก็จำเป็นต้องคำนึงว่า โทนสีนั้น ๆ เหมาะกับบริเวณที่ต้องการจะทาหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น สีโทนอ่อนและสีโทนเข้ม สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเราได้ เช่น สีแดงเป็นสีที่กระตุ้นพลังงาน จะไม่เหมาะสมกับห้องนอนที่ต้องการความสงบ เป็นต้น ว่าแต่จะมีสีอะไรบ้าง บรรดาสายมู ต้องรีบมาดูจากบทความนี้กันเลย Clickfindhome.com  ได้รวบรวม อัปเดทสีมงคล สายมู เสริมดวงชีวิต เรียกทรัพย์ ข้อมูลในการแต่งบ้านด้วยสีมงคลทั้ง 4 สี ได้แก่ สีเขียวมรกต สีแดง สีทอง สีเงิน ตกแต่งผ้าม่าน การทาสีผนัง ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ หรือของประดับตกแต่งต่างๆ ได้ตามความต้องการ สีเขียว เป็นสีของธาตุไม้ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วสีมงคลที่ถือเป็นสีนำโชคประจำปีนี้ ได้แก่ สีเขียวมรกต เป็นสัญลักษณ์ของการเจริญเติบโต การเกิดใหม่ และความมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และสุขภาพที่ดี อีกทั้งสีเขียวยังสามารถปรับใช้ร่วมกับสีอื่น ๆ ได้อีกหลายสี คือ สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีม่วง สีแดง และสีเหลือง ซึ่งถือเป็นคู่สีที่หากนำไปใช้ร่วมกันจะช่วยทำให้เกิดความสมดุล ช่วยสร้างความสุข และนำพาความเจริญกับความมั่งคั่งมาให้ สีแดง เป็นสีของธาตุไฟ เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ ความรุ่งเรือง ร่ำรวย และความสำเร็จ เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องนอน ห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือห้องครัว เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย ความสำเร็จในหน้าที่การงาน และชื่อเสียง ห้องนอนสีแดงอาจจะเหมาะกับห้องนอนสำหรับผู้ใหญ่ แต่เคล็ดลับคือคุณต้องไม่เลือกห้องนอนเป็นสีแดงทั้งห้อง ถ้าคุณนำสีแดงเข้าไปตกแต่งในห้องนอนมากเกินไป จะทำให้ภายในห้องร้อนแรงจนแทบจะลุกเป็นไฟ แต่หากสีแดงน้อยจนเกินไปความรักของคุณก็อาจจะเย็นชา ดังนั้นวิธีที่จะนำสีแดงเข้าไปตกแต่งในห้องนอนคือเลือกของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยเป็นสีแดงเช่นหมอนอิง ผ้าห่ม เป็นต้น สีแดงสำหรับการตกแต่งภายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงที่จัดจ้านเสมอไป สีแดงมีหลายหลากเฉดสีที่สามารถสร้างบรรยากาศสบายและน่าดึงดูดให้กับห้องได้ สีแดงหม่นผสมผสานเข้ากันดีกับสีน้ำตาล สีเทา และโทนสีไม้ได้อย่างสวยงาม และสำหรับห้องสีขาวนั้นการเล่นสีด้วยสีแดง เช่น สีแดงอิฐ สีแดงไม้มะฮอกกานี หรือสีแดงแบบ rustic ก็จะสามารถสร้างความโดดเด่นในการตกแต่งขึ้นมาทันที สีทอง เป็นสีของธาตุทอง เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและร่ำรวย เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องรับแขก ห้องทำงาน หรือห้องนอน เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย อำนาจบารมี และความมั่นคง สีเงิน เป็นสีของธาตุน้ำ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและปลอดภัย เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องครัว เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย โชคลาภ และสุขภาพที่ดี
05
OCT
จัดห้องนอนยังไง? ให้นอนหลับสบาย ตื่นมาสดชื่น
10 ไอเดีย การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย 1. เลือกตำแหน่งห้องนอนให้เหมาะสม โดยส่วนใหญ่จะนิยมเลือกห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออก เนื่องจากเป็นทิศที่มีแดดส่องเข้ามาห้องในตอนเช้า ถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ในทุกๆ เช้า คนที่เลือกห้องนอนอยู่ฝั่งนี้จะรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดระหว่างวัน 2. เลือกความสูงเตียงที่พอเหมาะสม เตียงนอนไม่ควรสูงหรือต่ำจนเกินไป ยิ่งถ้าบ้านของคุณมีฝ้าเพดานต่ำ เตียงหรือฟูกยิ่งไม่ควรอยู่สูง เพราะเตียงที่สูงอาจจะทำให้คุณต้องเผชิญกับฝุ่นบนฝ้าเพดาน ส่วนใต้เตียงก็ควรจะเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเท ก็จะช่วยให้คุณหายใจได้สะดวกขณะนอนหลับยิ่งขึ้น ·    ความสูงของเตียงทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 40 – 50 เซนติเมตร ·    เตียงที่ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ควรมีความสูง 50 – 55 เซนติเมตร ·    เตียงที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้สูงอายุ ควรสูงประมาณ 55 – 60 เซนติเมตร ·    หัวเตียงควรมีความสูงจากพื้นประมาณ 100 – 120 เซนติเมตร (วัดจากขอบล่าง)       หมายเหตุ : ความสูงของเตียงจะรวมถึงที่นอนด้วย การเลือกที่นอนต้องคำนึงถึงสรีระเป็นหลัก ควรรองรับความโค้งของกระดูกสันหลัง ไหล่ สะโพก และส้นเท้า ไม่ควรแข็งหรือนุ่มจนเกินไป รวมถึง หมอน ที่ต้องเลือกความสูงที่พอดีทำให้กระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพกไม่โค้งระหว่างนอน ถือว่าเป็น การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย อีกทางหนึ่ง 3. เลือกตำแหน่งเตียงนอน ตำแหน่งของเตียงนอนไม่ควรอยู่ติดกับประตู เพราะอาจจะทำให้คุณ ตกใจตื่นเพราะคนที่เดินเข้า-ออกหรือเดินผ่าน ตำแหน่งที่ดีสำหรับเตียงนอน ควรเป็นตำแหน่งตรงข้ามประตู เยื้องกับประตูหรือไม่ก็ห่างจากประตูไปเลย หน้าต่างเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่อาจรบกวนการนอนของคุณ ทำให้คุณได้ยินเสียงรบกวนต่างๆ ขณะนอนหลับอยู่ นอกจากนี้ ไม่ควรวางหัวเตียงใกล้ห้องน้ำ เพราะอาจจะทำให้คุณได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขณะนอนหลับได้ 4. โทนสีของห้องนอน หลักง่ายๆ ในการเลือกสีห้องนอน การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย ห้องนอนของเรา ไม่จำเป็นต้องซ้ำแบบใคร มีสไตล์เฉพาะตัว ที่สำคัญ ต้องเป็นโทนสีที่เจ้าของห้องนอนรู้สึกว่าชอบและผ่อนคลายมากที่สุด  งานวิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับจากหลายสถาบันยืนยันตรงกันว่า สีโทนเย็น เช่น ฟ้า เทา เงิน เขียว เป็นสีที่เหมาะกับห้องนอน เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจลดลง แล้วจบที่การนอนหลับได้สนิทและยาวนานกว่าผู้ที่นอนอยู่ในห้องนอนที่ใช้โทนสีสว่างหรือจัดจ้าน แนะนำให้คุณเลือกโทนสี 2-3 กลุ่มผสมผสานกัน โดยใช้สูตร 60:30:10 โดย 60% เป็นสีทาผนังและเพดานภายในห้องนอน 30% เป็นสีทาผนังด้านหัวเตียงหรือฝั่งปลายเตียง และ 10% เป็นสีทาบานประตู กรอบหน้าต่าง บัวพื้น บัวฝ้าเพดาน 5. แสงสว่างภายในห้อง แสงสว่างภายในห้องควรเป็นแสงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ควรเป็นแสงสว่างที่มากเกินไปและต้องไม่เป็นแสงสลัว ดังนั้นจึงควรเลือกแสงแบบวอร์มไวท์ (Warm White) ทำให้มองเห็นทุกอย่างภายในห้องได้ชัดเจน ทั้งยังช่วยทำให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หลอดไฟวอร์มไวท์มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้ม สีโทนอุ่นของหลอดไฟช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา สร้างความอบอุ่นโรแมนติก หลอดไฟวอร์มไวท์เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นอย่างยิ่ง หลอดไฟวอร์มไวท์คือหลอดไฟที่เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนมากที่สุด เพราะหลอดไฟวอร์มไวท์ ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยที่สุด ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าแสงสีฟ้าจะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หลอดไฟวอร์มไวท์ยังให้บรรยากาศอบอุ่น ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสงบ จึงพักผ่อนได้อย่างสบายใจ โดยระดับความสว่างที่แนะนำสำหรับหลอดไฟวอร์มไวท์คือ 150 – 300 Lux และความสว่างทั่วไปภายในห้องนอนไม่ควรเกินกว่า 150 Lux ข้อดีที่ไม่เหมือนใครของหลอดไฟวอร์มไวท์จะช่วยให้การพักผ่อน นอนหลับสนิทดียิ่งขึ้น 6. ของตกแต่งห้องนอน รูปภาพในห้องนอนควรเลือกเป็นภาพของวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ เน้นการใช้โทนสีสบายตาเช่นสีเขียว สีครีม สีเอิร์ธโทน ที่ทำให้รู้สึกบางเบานอนหลับสบายมากขึ้น พร้อมเพิ่มบรรยากาศให้ห้องมีความเย็นสบาย ต้นไม้หรือดอกไม้ภายในห้องนอน ควรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กทั้งหมด ซึ่งจะถือว่าเป็นการตกแต่งที่จะช่วยทำให้เกิดความผ่อนคลาย พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ปกติการวางต้นไม้นั้นนิยมวางไว้ให้พ้นตำแหน่งสายตาขณะอยู่บนเตียงนอน 7. เลือกวัสดุที่ไม่ดักฝุ่น ชุดเครื่องนอน รวมไปถึงหมอนและผ้าห่ม ควรเลือกใช้เนื้อผ้าที่ทำความสะอาดง่าย ไม่อมฝุ่น หมอนที่ทำให้คุณรองคอได้สบาย ไม่นิ่มหรือไม่แข็งเกินไป เพื่อทำให้การหลับของคุณเป็นไปอย่างดีเยี่ยม เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในห้องนอน อีกหนึ่งส่วนสำคัญในการจัดวางห้องนอน ที่เป็นตัวการดักฝุ่น ใครที่รู้ตัวว่าเป็นภูมิแพ้ แนะนำให้ทำความสะอาดเตียงและห้องนอนอยู่ตลอด ผ้าม่าน เป็นอีกหนึ่งชิ้นในห้องนอนที่สะสมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี หมั่นทำความสะอาดทุก ๆ 3-6 เดือน 8. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ตอนเรานอนหลับร่างกายจะมีอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ ดังนั้นก่อนนอนไม่ควรปรับอากาศให้หนาวไป หรือร้อนไป เพราะร่างกายเกิดการผิดเพี้ยน ทำให้เราหลับไม่สบายจนต้องลุกขึ้นมากลางดึก นอกจากนี้การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะกับห้อง และเลือกตำแหน่งติดแอร์ให้เหมาะสม จะช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง หมดปัญหาเรื่องอุณหภูมิห้องนอนไปได้เลย 9. หลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้สามารถรบกวนการนอนหลับได้ 10. ห้องนอนที่ดีไม่ควรมีโต๊ะทำงานหรือการนำงานเข้ามาทำในห้อง คงเป็นเรื่องยากที่คุณจะหลับไปโดยไม่คิดถึงเรื่องงาน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนรักหนังสือ ควรเก็บในบนหัวนอนจำนวนไม่กี่เล่มสำหรับอ่านให้ผ่อนคลาย เพราะถ้ามากกว่านั้นอาจทำให้เกิดความคิดและกังวล เหมือนห้องทำงานได้ นอนครบ 8 ชั่วโมง ทำไมยังรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย?   การจัดห้องนอน ให้นอนหลับสบาย การนอนหลับนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี แต่บางครั้งการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะนอนครบ 8 ชั่วโมงแล้วก็ตาม ทำให้คุณรู้สึกไม่สดชื่น ลองมาดูกันว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้นอนเท่าไรก็ไม่พอ ตื่นมาแล้วยังอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ถ้าเจอกับสถานการณ์นี้ เราจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร? ความเครียดหรือความกังวล เป็นสาเหตุสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้การนอนหลับของคุณไม่เพียงพอ เทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิท นั่นก็คือ การฝึกนั่งสมาธิ โยคะ การหายใจเข้าลึก ๆ หรือการฟังเพลง ASMR ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ จะไปขัดขวางการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เรารู้สึกง่วงและผ่อนคลาย เพื่อให้สมองเตรียมพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหน้าจออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน แล้วหันไปทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายแทน เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลงเบาๆ สภาพแวดล้อมการนอนหลับที่ไม่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในห้องนอนที่ไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น มีแสงสว่างหรือเสียงดังรบกวนมากจนเกินไป อุณหภูมิในห้องร้อนหรือหนาวเกินไป หรือที่นอนและหมอนที่ไม่สบาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับที่ดี ห้องนอนควรเป็นสถานที่ที่สงบ เย็นสบาย และมืดสนิท การจัดห้องนอนให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณหลับสบายและตื่นมาอย่างสดชื่น เวลาเข้านอนที่ไม่สม่ำเสมอในทุก ๆ วัน เวลาเข้านอนและตื่นนอนในเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวัน จะส่งผลทำให้การนอนหลับไม่ดีเท่าที่ควร พยายามปรับการนอนที่สม่ำเสมอ โดยเข้านอนและตื่นนอนในเวลาใกล้เคียงกันทุก ๆ วัน อาหารและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มคาเฟอีน ซึ่งมีในหลายรูปแบบมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ชานมไข่มุก น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือกินมื้อหนักในช่วงใกล้นอน จะไปกระตุ้นร่างกายและทำให้นอนหลับยาก เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตที่เคร่งเครียดและขาดการออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น
05
OCT
Staycation ได้ทุกวัน กับไอเดียตกแต่งบ้านในสไตล์รีสอร์ต
คำว่า “Staycation” เป็นการผสมคำกันระหว่าง Stay ที่มีความหมายว่า “อยู่กับบ้าน” และ Vacation ที่แปลว่า “การลาพักผ่อน” เมื่อรวมกันหมายถึงการพักผ่อนอยู่กับบ้าน   เราสามารถเปลี่ยนบ้านเดิมๆ ให้ได้ฟีล Vacation ได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณลองเปลี่ยนมุมเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มของตกแต่งบ้าน เพิ่มแสงไฟ หรือต้นไม้ประดับตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน เพิ่มกลิ่นหอมเลียนแบบรีสอร์ท โรงแรม หรือที่เที่ยวโปรดของคุณ เพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้านของคุณ ให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนต่างอากาศได้ในทุก ๆ วัน ทริคง่าย ๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือน Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน สำหรับใครที่กำลังอ่านและสนใจอยากไป Staycation แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี ทริคง่าย ๆ ที่แค่ลองขยับเฟอร์นิเจอร์ตัวโปรดสักนิด เปลี่ยนมุมสักหน่อย ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไป Staycation แล้ว บอกเลยว่าถูกใจสายเที่ยว ไม่มีเบื่อแน่นอน พร้อม บ้านมือสอง ที่มีให้คุณได้เลือกกันมากมายไม่ว่าจะเป็นโซนกรุงเทพฯ ปริมณฑลหรือต่างจังหวัด เปลี่ยนมุมวางเฟอร์นิเจอร์ เพียงแค่คุณลองหาเวลาว่าง ก่อนวันถึงวันหยุดพักผ่อน เราลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่โดยย้ายเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นเข้าชิดมุมผนัง เราก็จะได้มุมห้องใหม่ ได้พื้นที่ตรงกลางคืนมา ทำให้มุมห้องเดิม ๆ ดูโปร่งสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้พื้นที่ส่วนกลางกลับคืนมา การตกแต่งพื้นที่จุดนี้สามารถทำได้อีกหลายแบบ หาต้นไม้มาวางไว้สักมุมหนึ่งในห้องเพื่อเพิ่มความสดชื่น ติดไฟประดับเพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไป เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน เตรียมรับกับประสบการณ์ใหม่ แต่ภายใต้สถานที่เดิม ประหยัดเวลาการเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลามีเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมัน ค่าตั๋วเครื่องบิน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อีกด้วย การตกแต่งมุมห้องนอน ห้องนอนถือเป็นห้องพักผ่อน ซึ่งการตกแต่งห้องนอนโดยการจัดเตียงนอนให้อยู่ชิดผนังไปทางด้านใดด้านหนึ่งนั้น จะช่วยให้มีมุมห้องสำหรับตกแต่งให้สวยงามได้มากยิ่งขึ้น การตกแต่งมุมห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นสำหรับใครหลายๆคนนั้น คือห้องที่ใช้ในการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการ ดูหนัง ฟังเพลง พูดคุย และทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน ซึ่งการจัดห้องนั่งเล่นให้น่านั่งนั้น จะช่วยให้สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่ เช่น การเลื่อนโซฟาเข้าไปชิดมุม และอาจจะเน้นสีสันของห้องให้ดูอบอุ่นสะอาดตา และควรมีต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มความสดชื่น อาจจะหาผ้าม่านปรับแสงเพื่อกรองแสงแดดและช่วยปรับโทนความสว่างให้กับห้องได้อีกด้วย การตกแต่งมุมห้องด้วยชั้นวางของ ชั้นวางของดีไซน์เก๋ ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดีย ที่จะทำให้มุมห้องธรรมดาของคุณ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราสามารถนำของตกแต่งบ้านอื่น ๆ เข้ามาจัดวางบนชั้นวาง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากเดิมที่เคยเป็นมา นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับบ้านอีกด้วย ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนกับ บ้านทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด ไม่มากนัก ซึ่งเราพร้อมตอบโจทย์ที่อยู่อาศัย สำหรับบ้านทาวน์โฮมมือสอง ที่มีให้เลือกตามความต้องการของคุณ ผ้าม่านสร้างบรรยากาศโปร่งโล่งสบาย โรงแรมหรือรีสอร์ตส่วนใหญ่ มักใช้ผ้าม่านสีขาวบาง ๆ เพราะผ้าม่านเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน นอกจากจะเป็นการตกแต่งที่ง่าย ไม่ยุ่งยากแล้วยังให้ความเป็นส่วนตัวกับเรา แถมยังเปิดโอกาสให้เราได้รับแสงแดดธรรมชาติยามเช้ามากขึ้นอีกด้วย เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกผ้าม่านเพื่อให้เหมาะสม เพื่อสร้างบรรยากาศดี ๆ ภายในบ้านมาฝากกันค่ะ ผ้าม่านโปร่ง ช่วยปรับแสงในห้อง ทำให้บ้านดูสว่างสดใสได้โดยที่ไม่ต้องเปลืองไฟ อีกทั้งยังสามารถใช้ได้กับบ้านทุกสไตล์ ผ้าม่านโปร่งสีพื้น จะเหมาะกับสไตล์โมเดิร์นและสไตล์มินิมอลลิสต์ ส่วนผ้าโปร่งลายปัก ลายฉลุ และลายลูกไม้ต่าง ๆ จะเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งแนววินเทจและสไตล์คันทรี ผ้าโปร่งลายลูกไม้จะสร้างบรรยากาศอ่อนหวาน ช่วยทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกด้วย   หลักในการเลือกผ้าม่านนั้น ไม่มีหลักการที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของเจ้าของบ้านเป็นหลัก โดยปกติแล้วบ้านเดี่ยว จะมีหน้าต่างที่มากกว่าบ้านทาวน์โฮม อยู่ค่อนข้างมาก วันนี้เรามีพร้อมด้วย บ้านเดี่ยวมือสอง ย่านสมุทรปราการ ที่ให้คุณเลือก เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว จึงขอนำเสนอแนวทาง Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน ในการเลือกผ้าม่านแต่ละห้องหลักการง่าย ๆ ในการเลือกโทนสีและลวดลายผ้าม่าน - หากต้องการให้ห้องดูโล่งกว้างสบายตา ควรเลือกใช้ม่านสีโทนอ่อน - หากต้องการให้ห้องมีพื้นที่กระชับหรือดูเข้มขรึม สงบนิ่ง ควรเลือกใช้ม่านสีโทนเข้ม - ผ้าม่านที่มีลวดลายหรือเส้นสายใหญ่ๆ จะช่วยให้ห้องดูเล็กลงจึงเหมาะกับการใช้ในห้องโถงหรือห้องรับแขกขนาดใหญ่ - ส่วนผ้าม่านที่มีลวดลายเล็กๆ ให้ผลตรงข้ามกันเพราะจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นจึงมักใช้ในห้องขนาดเล็กหรือห้องชุดคอนโดฯ เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเราจินตนาการถึง แสงอ่อน ๆ ที่พาดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาในห้องของเรา นอกจากจะช่วยให้ห้องดูปลอดโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยพัดพาความเครียดที่สะสมอยู่ในใจ ให้ได้ถ่ายเทออกไปจากใจ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่เรามองเห็นได้จากภายนอก สายลมที่พัดผ่าน ใบไม้ที่ไหวติง นกที่บินผ่าน ผ้าม่านโปร่ง Staycation ไอเดียเปลี่ยนบ้าน เป็นที่พักผ่อน ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเยียวยาความอึดอัดในใจได้เช่นกันค่ะ เพิ่มกลิ่นหอมรัญจวนใจดั่งต้องมนต์..ให้บ้าน บางครั้งที่เราได้กลิ่น จากนั้นเรามักจะคิดถึงเรื่องราวของชีวิตในอดีต เรื่องราวผสมกับความทรงจำของกลิ่นที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ภาพผสมผสานกับกลิ่นเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตั้งแต่ที่เราเกิดขึ้นมา จมูกของเราทำงานได้ดีมาก สามารถจดจำเรื่องราวผ่านกลิ่นต่างๆ ได้ ลองไปหาเลือกซื้อเทียนหอมหรือก้านหอมที่ให้กลิ่นผ่อนคลาย หรือกลิ่นสถานที่ที่ชอบ เช่น ทะเล หรือภูเขา มาจุดไว้ในบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนเดิม นักเคมีเกี่ยวกับกลิ่นประเมินว่า ‘มนุษย์อาจสามารถแยกแยะกลิ่นระหายได้ถึง 10,000 รูปแบบ’ โดยการที่คนเราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างกลิ่นต่างๆ เนื่องจากเซลล์รับกลิ่นมียีนที่เฉพาะเจาะจงเพียง 1 ยีนเท่านั้น ฉะนั้นเซลล์รับกลิ่นจึงมีอยู่เป็นจำนวนมากและมีหลายชนิด นักจิตวิทยากล่าวเอาไว้ว่า “กลิ่นส่งผลต่อความทรงจำของเรามากที่สุด” ‘กลิ่น’ มักเชื่อมกับความทรงจำระยะยาวของเรา ทำให้เราย้อนคิดถึงความทรงจำที่ประกอบด้วยความรู้สึกต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างหวนย้อนคืนมา ภาพและเสียงในตอนนั้น เมื่อเราสัมผัสถึงกลิ่นแห่งความทรงจำดี ๆ ของใครสักคน เรามักจะเห็นภาพของความทรงจำนั้น ซึ่งหลายคนอาจมีคำถามว่าทำไมกลิ่นถึงกระตุ้นความทรงจำเราได้ดีนัก นั่นเพราะว่าสมองกลีบหน้าของเรานั้นต่อตรงเข้ากับการรับกลิ่น ทำให้ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเรามักจะนึกถึงความทรงจำนั้น ได้ดีกว่าการเห็นหรือได้ยินอยู่เสมอ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน เวลาที่เราพักที่โรงแรม หรือรีสอร์ตในต่างจังหวัด สิ่งที่แรกที่เราจะพบเห็นบ่อยๆ ก็คือต้นไม้ ธรรมชาติ ป่าเขา หรือทุ่งนาไกลสุดสายตา สิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนบ้านเราเป็นในแบบ Staycation ง่าย ๆ นั้นก็คือ การปลูกต้นไม้เข้าไปรอบ ๆ บ้าน ไม่ว่าจะกระถางเล็ก กระถางใหญ่ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายและสบายตามากขึ้นกว่าเดิม แต่งบ้านและจัดสวนภายนอก สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ในปัจจุบัน หลาย ๆ คนมีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้หรือมีสวนหย่อมอยู่บริเวณบ้านน้อยลง แต่ความต้องการปลูกต้นไม้เพื่อตกแต่งบ้านและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในบ้านยังคงอยู่ สามารถนำมาตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ให้ความรู้สึกเป็นกันเองกับธรรมชาติ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วย การวางต้นไม้ภายในบ้านสามารถทำได้หลายจุด เช่น ห้องนั่งเล่น – ตามมุมต่าง ๆ ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นข้างโซฟา ใกล้หน้าต่าง หรือวางบนชั้นวางของ เพื่อเพิ่มสีสันและความสดชื่นให้กับห้อง ห้องนอน –บนหัวเตียง หรือตั้งบนโต๊ะขนาดเล็กข้างเตียงเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายก่อนนอนหลับ ห้องครัว –บนชั้นวางของหรือชั้นติดผนัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่เกิดควัน หรือไอน้ำมัน เป็นต้น ห้องน้ำ – วางกระถางขนาดกระทัดรัดบริเวณพื้นที่ว่างเพื่อเพิ่มความสดชื่น ไม่รู้สึกอึดอัด สิ่งสำคัญในการวางต้นไม้ภายในบ้านคือต้องเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมแสงและอากาศภายในอาคาร รวมถึงขนาดของพื้นที่ที่จะวางกระถางด้วย หลีกเลี่ยงการวางต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่เกินไปในพื้นที่จำกัด เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด ในการอยู่อาศัยในชีวิตประจำวัน การตกแต่งบริเวณหน้าบ้าน สามารถจัดวางกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่และเล็กสลับกันเป็นแนวยาวไปตามรั้วหรือกำแพงบ้าน โดยเลือกชนิดของต้นไม้ที่มีสีและรูปทรงแตกต่างกัน จัดเรียงให้สวยงามตามหลักการจัดวางที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถปลูกไม้ประดับทั้งพุ่มเตี้ย ไม้คลุมดิน และไม้เลื้อยเพื่อความหลากหลายในการจัดวางได้อีกด้วย ทำเลย่านบางพลี สมุทรปราการ ก็เป็นอีกหนึ่งทำเล ที่มีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มีการคมนาคมที่เดินทางที่สะดวก และครบครัน พร้อมด้วยบ้านเดี่ยว บ้านทาวน์โฮม ย่านบางพลี สมุทรปราการ ปรับแสง Mood & Tone ในบ้าน อยากให้บ้านดูอบอุ่น หรืออยากจะให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย ไม่เพียงแต่การตกแต่งบ้านและการเลือกเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นที่ช่วยได้ แต่การเลือกสีและความสว่างของไฟก็มีผลต่อ Mood & Tone ของบรรยากาศภายในบ้านเช่นเดียวกัน อุณหภูมิสีของแสง ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง อุณหภูมิของแสง (Color Temperature) หรือเคลวิน (Kelvin) หรือค่า K ก็มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และบรรยากาศในห้อง ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการออกแบบอุณหภูมิของแสงเพื่อใช้ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบ Warm white ไปจนถึง Daylight นั่นเอง สีของไฟในปัจจุบันจะมีอยู่ 3 แบบ นั่นก็คือ วอร์มไวท์ (Warm white) คูลไวท์ (Cool white) และเดย์ไลท์ (Daylight) มีความแตกต่างกันดังนี้ วอร์มไวท์ (Warm White) จะมีแสงออกเหลืองส้ม อุณหภูมิของสีอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 เคลวิน ยิ่งค่าเคลวินยิ่งน้อย อุณหภูมิของแสงก็จะออกโทนส้มมากยิ่งขึ้น แสงแบบวอร์มไวท์จะเหมาะกับห้องที่เราต้องการให้มีบรรยากาศสบาย ๆ อบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อน อย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น คูลไวท์ (Cool White) จะมีแสงออกขาวนวล ๆ ไม่ถึงกับเป็นสีเหลือง แต่ก็ไม่ถึงกับขาวจ้า มีค่าอุณหภูมิของสีอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 เคลวิน แสงแบบนี้เหมาะกับการติดตั้งในห้องน้ำ ห้องครัว เดย์ไลท์ (Daylight) เป็นแสงที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน สามารถมองเห็นวัตถุได้ชัดเจน สีไม่เพี้ยนไปจากความเป็นจริง มีค่าอุณหภูมิของสีอยู่ที่ประมาณ 6,000 เคลวิน เหมาะแก่การติดตั้งในห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ เปลี่ยนบรรยากาศของยามเย็นเดิม ๆ ของคุณ เป็นยามเย็นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าหลงใหล ดินเนอร์ที่สุดแสนโรแมนติก ด้วยวิวสวยๆ ของแสงไฟยามราตรี ห้องนั่งเล่นระหว่างดูหนังยามดึก แค่นี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไป Staycation แล้ว เมื่อนิยามคำว่า “บ้าน” ในทุก ๆ วันของคุณ เปรียบเสมือนกับคุณได้ Staycation ในทุก ๆ ช่วงเวลา เรามี “บ้านมือสอง” หลากหลายสไตล์การตกแต่งบ้าน เพื่อให้คุณได้พบบ้านที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมส่งต่อที่อยู่ของความสุข มอบประสบการณ์ความรู้สึกสุดผ่อนคลาย คล้ายกับว่าได้เที่ยวแบบ Staycation อยู่ตลอดเวลา
05
OCT
ส่องเทรนด์สังคมผู้สูงวัย บ้านแบบไหนโดนใจวัยเกษียณ
บ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยควรเป็นแบบไหน…?   ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ในแง่ของการออกแบบที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุนั้น ก็ย่อมต้องมีความแตกต่างกับที่พักอาศัยแบบทั่วไปอยู่แล้ว โดยที่จะต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ดังนั้นทั้งภายนอกและภายในของที่อยู่อาศัย เน้นการออกแบบตามหลัก “Universal Design” โดยครอบคลุมการใช้งานสำหรับคนทุก ๆ วัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทางลาด ราวจับ บันได และระยะภายในห้องที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้ ที่สำคัญคือการเลือกใช้วัสดุ ในการป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปูพื้น และอุปกรณ์ป้องกันการลื่นล้ม แม้กระทั่ง เฟอร์นิเจอร์ในห้องต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่ต้องเอื้อมหรือก้มเพื่อหยิบจับ ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์เตือนก่อนล้ม เฝ้าระวังสูงวัย/ผู้ป่วย เพื่อลดภาระงานผู้ดูแล   จัดบ้านยังไงให้เหมาะกับผู้สูงอายุ ในขณะที่สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว Clickfindhome ขอนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการออกแบบ และ ตกแต่ง บ้านมือสอง ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ หรือมีข้อไหนที่ควรระมัดระวังบ้างมาฝากกันค่ะ ห้องนอน ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุควรมีช่องหรือกระจกบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีพื้นที่อย่างน้อย 16-20 ตารางเมตร สำหรับทำกิจกรรม หรืองานอดิเรก ส่วนเตียงนอนควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร (ระดับหัวเข่า) และมีพื้นที่รอบๆ มุมเตียง ควรมีวัสดุป้องกันการกระแทก บริเวณหัวเตียงควรติดตั้งปุ่มฉุกเฉินหรือโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ นั่นก็คือ บ้านเดี่ยว ที่ Clickfindhome มีให้เลือกมากมายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังควรเผื่อพื้นที่สำหรัลวีลแชร์โดยต้องมีระยะหมุน 1.5 เมตรด้วย และที่สำคัญที่สุดควรจัดห้องนอนไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน พร้อมมีห้องน้ำในตัวหรืออยู่ใกล้ห้องนอนผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อการใช้งานอันสะดวกสบายค่ะ ห้องน้ำ ห้องน้ำควรกว้างอย่างน้อย 1.5 x 2 เมตร ประตูห้องน้ำกว้างอย่างน้อย 90 ซม. แนะนำว่าควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือบานเปิดออก ระดับพื้นห้องน้ำควรเท่ากับห้องนอน ป้องกันการสะดุดล้มจาก Step ที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือต้องเป็นวัสดุกันลื่น พื้นผิวหยาบ และทำความสะอาดง่าย ควรจะต้องติดตั้งราวจับไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น โถสุขภัณฑ์ บริเวณที่อาบน้ำ เป็นต้น พร้อมทั้งแยกโซนแห้ง / โซนเปียก สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำควรมีลักษณะโค้งมน โค้งเว้า ใช้งานง่าย ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ภายในห้องน้ำควรมีระยะหมุนตัวสำหรับรถเข็นไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตรด้วย สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “แสงสว่าง” ในห้องน้ำ ต้องสว่างเพียงพอ ควรใช้หลอดไฟสีขาว ซึ่งจะทำให้การมองเห็นดีกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ ห้องนั่งเล่น ถือว่าเป็นห้องหลัก สำหรับทุกคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนั้นจึงควรสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย มีพื้นที่โล่ง และไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ควรจัดวางให้ชิดกำแพง ลบมุมให้มีความโค้งเว้า หรือหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก ควรใช้หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นผ่านเข้าไปได้ และสามารถเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ด้วยค่ะ บริเวณบันไดขึ้น-ลง ในบางกรณี ที่มีความจำเป็นหากห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ชั้นบน ซึ่งมีความเสี่ยง ที่อาจสะดุดพลัดตกจากบันได ดังนั้นบ้านผู้สูงอายุจึงควรปรับบันไดให้มีความกว้างที่เหมาะสม ขั้นบันได ควรสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ความกว้างอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ควรมีราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ในระยะ 80 เซนติเมตรจากพื้น และมีแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากนั้น เราขอแนะนำให้ติดตั้ง “ลิฟต์บันได” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในการขึ้น-ลงบ้าน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริเวณรอบบ้าน ทางเข้าบ้านและบริเวณอื่น ๆ พื้นทางเดินควรเรียบ ในกรณีที่มีทางลาดเข้าบ้าน ควรต้องมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 5 องศา หรือ 1:12 คือระยะความสูง 1 เมตร ต้องใช้ความยาวทางลาด 12 เมตร มีพื้นที่ว่างหน้าทางลาดไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ใช้วัสดุพื้นผิวไม่ลื่น มีขอบกั้นและราวจับตลอดแนวทางลาด สำหรับความกว้างทางเดินควรกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็น ผู้สูงอายุเองก็ยังต้องการการผ่อนคลายไม่ต่างจากคนหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไป ดังนั้นควรเลือกบ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบพื้นที่ให้เป็น Universal Design ที่เอื้อให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้อย่างเท่าเทียมกัน แบบบ้านที่ใช่ สิ่งแวดล้อมที่ลงตัว ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 บ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม สำหรับผู้สูงอายุ ควรต้องมีภูมิทัศน์ที่ดี เปิดโล่ง ไม่รู้สึกอึดอัด อากาศถ่ายเทสะดวก สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดี สุขภาพจิตที่ดี ย่อมทำให้ สุขภาพกายแข็งแรงตามด้วยเช่นกัน การเลือกบ้านสักหลัง เพื่อให้ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสังคม ความปลอดภัย บ้านสวยตรงใจ ธรรมชาติที่แสนร่มรื่นได้ทุก ๆ วัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น
05
OCT
บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม ซื้อบ้านหลังแรก แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า
บ้าน vs ทาวน์โฮม แบบไหนดีกว่ากัน? อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า จะซื้อบ้านทั้งทีก็คงต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า คำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่สบายในอนาคตของครอบครัวเป็นหลัก บ้านถือว่าเป็นทรัพย์สินหนึ่งที่หลายๆ คนมีเป้าหมายอยากจะครอบครอง แต่ปัญหาหนึ่งที่เชื่อว่าหลายๆ คนตั้งคำถามนั่นก็คือ อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า ควรซื้อแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน? การซื้อบ้านหลังแรกสักหลัง อาจจะต้องคิดพิจารณาเยอะสักหน่อย ไม่ว่าจะปัจจัยเรื่องเงิน ทำเล หรือแม้แต่ความคุ้มค่า ซึ่งความจริงแล้วเมื่อดูจากภายนอกแล้ว บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยคนส่วนใหญ่อาจคำนึงถึงทำเลที่ตั้งและราคาเป็นหลัก  ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจคิดไม่ตก เลือกไม่ถูกว่าจะซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมดี ลองมาดูความแตกต่างระหว่างบ้านเดี่ยวdกับทาวน์โฮมกัน เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันพอสมควร เปรียบเทียบความคุ้มค่าของบ้านเดี่ยว VS ทาวน์โฮม ช่วงนี้ใครมีแพลนอยากจะซื้อบ้านมือสอง The Best Property มีบ้านหลายแบบให้ได้เลือกดูเลือกซื้อกัน ตั้งแต่บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ไปจนถึงบ้านขนาดเล็ก เช่น ทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว “หากคุณเป็นคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ บ้านเดี่ยวก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของคุณนั่นเอง” บ้าน หรือที่มักจะเรียกกันว่าบ้านเดี่ยวนั้น จะมีลักษณะเป็นหลังโดยแบ่งบริเวณโดยรอบบ้านแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน มีพื้นที่ใช้สอยภายในค่อนข้างมาก โดยมีพื้นที่เริ่มต้นที่ 50 ตร.ว. ขึ้นไป เหมาะสำหรับความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมากกว่า และกำลังขยับขยายครอบครัว บ้านเดี่ยวเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ราวๆ 4 คนขึ้นไป เพราะว่าอสังหา ฯ ประเภทนี้จะมีพื้นที่ภายในบ้านที่มาก อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้ตามความชอบ จึงทำให้ บ้านเดี่ยว เป็นอสังหาประเภทบ้านที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด บ้านเดี่ยวทำเลเมืองส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่สูงกว่าทาวน์โฮมที่ตั้งในทำเลเดียวโดยเฉพาะในเขตแนวรถไฟฟ้า มีความเป็นส่วนตัว เนื่องจากไม่ได้มีส่วนใดของบ้านที่อยู่แนบชิดติดกับเพื่อนบ้าน ทำให้สามารถทำกิจกรรมภายในบ้าน ได้อย่างไม่ต้องกังวล พร้อมความเป็นส่วนตัว หรือตกแต่งต่อเติมภายในได้อย่างอิสระ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเหมือนทาวน์โฮม พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง บ้านเดี่ยวนั้นจะมีการแบ่งพื้นที่ของแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้โดยมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นได้ รวมถึงมีโครงสร้างบ้านแบบเปิด ทำให้มีแสงแดดและลมพัดผ่านมาตลอด ที่จอดรถเพียงพอ โดยปกติแล้วบ้านเดี่ยวนั้นจะแบ่งเนื้อที่เผื่อไว้สำหรับจอดรถประมาณ 2-3 คันอยู่แล้ว ซึ่งตามกฎหมายแล้ว สำหรับพื้นที่ใช้สอยและระยะร่นของบ้านเดี่ยวนั้น ได้มีการกำหนดให้มีขนาดที่ดินไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา และมีหน้ากว้างติดถนนไม่ต่ำกว่า 10 เมตร อีกทั้งยังต้องลึกลงไปอีก 20 เมตร จุดเด่นของบ้านเดี่ยวนั้นก็คือ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าอสังหา ฯ ประเภทบ้านอื่น ๆ อีกทั้งยังมีบ้านเดี่ยวหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกซื้อ ตัวบ้านเดี่ยวนั้น สามารถต่อเติมอะไรเพิ่มเติมได้ตามต้องการ โดยที่ The Best Property เรามีบ้านเดี่ยวมือสอง ให้ทุกท่านได้ตัดสินใจเลือกซื้อมากมาย ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คือ ตึกแถวหรือบ้านแถวในสไตล์บ้านเดี่ยวที่ถูกลดพื้นที่ลง โดยผนังทั้งสองด้านอยู่ติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 โดยไม่มีรั้วกั้น จะเป็นบ้านที่มีส่วนของผนังติดกับบ้านอื่นด้านใดด้านหนึ่งหรือ 2 ด้าน ตามกฎหมายแล้วต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 16-28 ตารางเมตร และมีพื้นที่น้อยกว่า 35 ตร.ว. มีให้เลือกตั้งแต่ชั้นเดียวจนถึง 3 ชั้น และสามารถทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ เหมาะสำหรับ คนโสด คนที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร หรือราวๆ สูงสุด 3-4 คนเท่านั้น คนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากกว่าคอนโดแต่ก็ไม่ต้องการดูแลพื้นที่บริเวณหน้าบ้านมากนัก มีรถไม่เกิน 1-2 คัน จุดเด่นของบ้านทาวน์โฮม นั้นสามารถปรับเปลี่ยน หรือลงทุนให้เป็น โฮมออฟฟิศ (Home Office) หรือ สำนักงานที่มีการปรับและให้ตั้งอยู่ในบ้านนั่นเอง โฮมออฟฟิศส่วนใหญ่นั้นจะมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง อบอุ่น แต่ไม่ได้รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ราคาไม่สูงมาก มีราคาที่ไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยว ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน คนทั่วไปสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก มีทำเลอยู่ภายในตัวเมือง เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่เยอะมาก ทำให้มีโครงการทาวโฮมอยู่ในบริเวณตัวเมืองมากกว่าโครงการบ้านเดี่ยว อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า แต่ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยคุณควรรู้จักไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้ดีเสียก่อน รวมทั้งคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ให้ดี 5 สิ่งที่ต้องคำนึง เมื่อคุณจะซื้อบ้านหลังแรก หลังจากเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างซื้อทาวน์โฮมกับบ้านเดี่ยวไปแล้ว มนุษย์เงินเดือนที่คิดจะซื้อบ้านหลังแรก ตอนนี้ควรคำนึงถึง 5 ปัจจัยเบื้องต้นเมื่อคิดจะซื้อบ้านหรือกู้บ้านสักหลัง ดังนี้ ราคาบ้านและทำเลที่ตั้ง  เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการซื้อบ้าน เลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา นั่นก็คือ กำลังการผ่อนบ้าน หรือราคาบ้านที่สูงจนเกินไป ลำดับต่อมานั่นก็คือ ทำเลที่ตั้ง จะต้องสะดวกและรวดเร็ว สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ในบทความนี้ Clickfindhome เรามี “บ้านมือสอง” ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด หรือที่ดิน ให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อบ้านมือสอง เราพร้อมแนะนำสำหรับทุกความต้องการของคุณ พื้นที่ใช้สอย เพียงพอ สำหรับสมาชิกในครอบครัว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในลิสต์ที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อบ้าน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยอาจไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมาก แต่ต้องตอบโจทย์กับวิถีชีวิตคนในยุคปัจจุบัน เช่น มีห้องอเนกประสงค์ มีมุมสำหรับ Work from home หรือการเรียนออนไลน์ ดีไซน์ของบ้าน โครงสร้าง และวัสดุในการตกแต่ง เชื่อได้เลยว่าปัญหาหนึ่งเวลาซื้อบ้านของใครหลายคน มักจะเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าในแต่ละโครงการ แต่ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นของการเปรียบเทียบ อาจจะต้องย้อนกลับมามองถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการอยู่อาศัยว่า จริงๆ แล้วเราต้องการอะไรในการอาศัยในประชีวิตประจำวัน  และรูปแบบบ้านประเภทไหนถึงจะตอบโจทย์กับคนในครอบครัวของคุณได้มากที่สุด รวมถึงดีไซน์ของตัวบ้านเองที่ก็ต้องเทียบขนาดการใช้งานระหว่างบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านทาวน์โฮมว่า แบบไหนตอบโจทย์กับวิถีชีวิตได้มากกว่ากัน หลังจากนั้นจึงค่อยเลือกนำโครงการที่มีรูปแบบบ้านที่ต้องการมาพิจารณากันอีกที…เพียงแค่นี้ก็จะช่วยทำให้ลดระยะเวลาในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหลังแรกไปได้เยอะเลยทีเดียว โครงสร้าง และวัสดุในการตกแต่ง ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่ง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัสดุที่เลือกใช้ ควรคำนึงถึงสภาพอากาศ เช่น ปริมาณแสงแดด ความร้อน ความเย็น ทิศทางลม และฝน หากไม่คำนึงถึงสภาพอากาศที่เพียงพออาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบวม รอยแตกร้าว การผุกร่อน การเกิดสนิม แสงแดดส่องเข้ามาในตัวบ้าน ทำให้บ้านมีอากาศร้อนจนเกินไป เป็นต้น สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลาง พื้นที่สำหรับลูกบ้านทุกคนจะได้ใช้งาน สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการบ้านซึ่งแต่ละโครงการก็มีฟังก์ชันที่แตกต่างกัน ไป ถือเป็นปัจจัยพิเศษสำหรับคนที่กำลังจะซื้อบ้าน ว่าพื้นที่ส่วนกลางนี้มาช่วยตอบสนองความต้องการใน ชีวิตของคุณได้หรือไม่ สระว่ายน้ำ ของบางโครงการอาจแบ่งจำแนกเป็นหลายประเภท เช่น สระผู้ใหญ่หรือสระว่ายน้ำของเด็ก หรือพิเศษยิ่งขึ้นคือสระเกลือที่โครงการบ้านต้องดูแลรักษามากเป็นพิเศษ ห้องออกกำลังกาย ของโครงการนั้นเป็นอย่างไร มีเครื่องออกกำลังกายทันสมัยหรือไม่ เมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้แล้ว คุณก็จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าสมัครฟิตเนสหรือเสียเวลาในการเดินทางอีกต่อไป พื้นที่สีเขียว ถ้าในโครงการมีต้นไม้ใหญ่ มีสนามหญ้าสวยๆ สามารถวิ่งออกกำลังกายหรือพาลูกน้อยออกมาเดินเล่นได้หรือไม่ ระบบรักษาความปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญที่สุดของโครงการบ้าน เช็คให้ดีว่าที่โครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาแค่ไหน ตั้งแต่เข้าโครงการมีเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยเพียงพอกับจุดต่างๆ ในโครงการหรือไม่? วงเงิน ระยะเวลาการกู้ รวมถึงดอกเบี้ย เรียกว่าเป็นด่านสุดท้ายของการคิดซื้อบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะถ้ากู้ไม่ผ่าน การซื้อบ้านก็ถือว่าเป็นอันยุติทันที แต่ในยุคปัจจุบันต้องบอกเลยว่า มีหลายตัวช่วยที่ทำให้เรื่องกู้บ้านกลายเป็นเรื่องง่าย  โดยที่หลายๆ ธนาคารต่างปรับเงื่อนไขให้สอดคล้องกับมาตรการรัฐที่กระตุ้นคนให้ซื้อบ้าน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ มีโอกาสกู้ซื้อบ้านผ่านได้สูง หรือแม้แต่การพักชำระหนี้ เอื้อให้คนซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรามี บริการที่ปรึกษาวางแผนการเงินจาก The Best Property “เพราะเราเชื่อว่า บ้านหนึ่งหลัง ไม่ได้มีเรื่องราวแค่ภายในบ้านของคุณเท่านั้น แต่เป็นสภาพแวดล้อม โดยรวมของโครงการที่ออกแบบ เพื่อยกระคุณภาพชีวิต และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณให้ได้มากที่สุด”