บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม ซื้อบ้านหลังแรก แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า

สร้างเมื่อ : 5 ต.ค. 2567

share

เทพารักษ์ บางพลี สำโรง แพรกษา ปู่เจ้าสมิงพราย ศรีด่าน ปากน้ำ บางปู สมุทรปราการ


บ้าน vs ทาวน์โฮม แบบไหนดีกว่ากัน?

อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า จะซื้อบ้านทั้งทีก็คงต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า คำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่สบายในอนาคตของครอบครัวเป็นหลัก บ้านถือว่าเป็นทรัพย์สินหนึ่งที่หลายๆ คนมีเป้าหมายอยากจะครอบครอง แต่ปัญหาหนึ่งที่เชื่อว่าหลายๆ คนตั้งคำถามนั่นก็คือ

อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า ควรซื้อแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน?

การซื้อบ้านหลังแรกสักหลัง อาจจะต้องคิดพิจารณาเยอะสักหน่อย ไม่ว่าจะปัจจัยเรื่องเงิน ทำเล หรือแม้แต่ความคุ้มค่า ซึ่งความจริงแล้วเมื่อดูจากภายนอกแล้ว บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยคนส่วนใหญ่อาจคำนึงถึงทำเลที่ตั้งและราคาเป็นหลัก 

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจคิดไม่ตก เลือกไม่ถูกว่าจะซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมดี ลองมาดูความแตกต่างระหว่างบ้านเดี่ยวdกับทาวน์โฮมกัน เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อแตกต่างกันพอสมควร

เปรียบเทียบความคุ้มค่าของบ้านเดี่ยว VS ทาวน์โฮม

ช่วงนี้ใครมีแพลนอยากจะซื้อบ้านมือสอง The Best Property มีบ้านหลายแบบให้ได้เลือกดูเลือกซื้อกัน ตั้งแต่บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ไปจนถึงบ้านขนาดเล็ก เช่น ทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮม

บ้านเดี่ยว

“หากคุณเป็นคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ บ้านเดี่ยวก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของคุณนั่นเอง”

บ้าน หรือที่มักจะเรียกกันว่าบ้านเดี่ยวนั้น จะมีลักษณะเป็นหลังโดยแบ่งบริเวณโดยรอบบ้านแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน มีพื้นที่ใช้สอยภายในค่อนข้างมาก โดยมีพื้นที่เริ่มต้นที่ 50 ตร.ว. ขึ้นไป เหมาะสำหรับความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมากกว่า และกำลังขยับขยายครอบครัว

บ้านเดี่ยวเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ราวๆ 4 คนขึ้นไป เพราะว่าอสังหา ฯ ประเภทนี้จะมีพื้นที่ภายในบ้านที่มาก อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้ตามความชอบ จึงทำให้ บ้านเดี่ยว เป็นอสังหาประเภทบ้านที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด บ้านเดี่ยวทำเลเมืองส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่สูงกว่าทาวน์โฮมที่ตั้งในทำเลเดียวโดยเฉพาะในเขตแนวรถไฟฟ้า

  • มีความเป็นส่วนตัว

เนื่องจากไม่ได้มีส่วนใดของบ้านที่อยู่แนบชิดติดกับเพื่อนบ้าน ทำให้สามารถทำกิจกรรมภายในบ้าน ได้อย่างไม่ต้องกังวล พร้อมความเป็นส่วนตัว หรือตกแต่งต่อเติมภายในได้อย่างอิสระ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนเหมือนทาวน์โฮม

  • พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

บ้านเดี่ยวนั้นจะมีการแบ่งพื้นที่ของแต่ละหลังเอาไว้อย่างชัดเจน มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้โดยมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นได้ รวมถึงมีโครงสร้างบ้านแบบเปิด ทำให้มีแสงแดดและลมพัดผ่านมาตลอด

  • ที่จอดรถเพียงพอ

โดยปกติแล้วบ้านเดี่ยวนั้นจะแบ่งเนื้อที่เผื่อไว้สำหรับจอดรถประมาณ 2-3 คันอยู่แล้ว

ซึ่งตามกฎหมายแล้ว สำหรับพื้นที่ใช้สอยและระยะร่นของบ้านเดี่ยวนั้น ได้มีการกำหนดให้มีขนาดที่ดินไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา และมีหน้ากว้างติดถนนไม่ต่ำกว่า 10 เมตร อีกทั้งยังต้องลึกลงไปอีก 20 เมตร

จุดเด่นของบ้านเดี่ยวนั้นก็คือ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าอสังหา ฯ ประเภทบ้านอื่น ๆ อีกทั้งยังมีบ้านเดี่ยวหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกซื้อ ตัวบ้านเดี่ยวนั้น สามารถต่อเติมอะไรเพิ่มเติมได้ตามต้องการ โดยที่ The Best Property เรามีบ้านเดี่ยวมือสอง ให้ทุกท่านได้ตัดสินใจเลือกซื้อมากมาย

ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์

ทาวน์โฮม คือ ตึกแถวหรือบ้านแถวในสไตล์บ้านเดี่ยวที่ถูกลดพื้นที่ลง โดยผนังทั้งสองด้านอยู่ติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 โดยไม่มีรั้วกั้น

จะเป็นบ้านที่มีส่วนของผนังติดกับบ้านอื่นด้านใดด้านหนึ่งหรือ 2 ด้าน ตามกฎหมายแล้วต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 16-28 ตารางเมตร และมีพื้นที่น้อยกว่า 35 ตร.ว. มีให้เลือกตั้งแต่ชั้นเดียวจนถึง 3 ชั้น และสามารถทำเป็นโฮมออฟฟิศได้

เหมาะสำหรับ คนโสด คนที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร หรือราวๆ สูงสุด 3-4 คนเท่านั้น คนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากกว่าคอนโดแต่ก็ไม่ต้องการดูแลพื้นที่บริเวณหน้าบ้านมากนัก มีรถไม่เกิน 1-2 คัน

จุดเด่นของบ้านทาวน์โฮม นั้นสามารถปรับเปลี่ยน หรือลงทุนให้เป็น โฮมออฟฟิศ (Home Office) หรือ สำนักงานที่มีการปรับและให้ตั้งอยู่ในบ้านนั่นเอง โฮมออฟฟิศส่วนใหญ่นั้นจะมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง อบอุ่น แต่ไม่ได้รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ราคาไม่สูงมาก

มีราคาที่ไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยว ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน คนทั่วไปสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

  • มีทำเลอยู่ภายในตัวเมือง

เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่เยอะมาก ทำให้มีโครงการทาวโฮมอยู่ในบริเวณตัวเมืองมากกว่าโครงการบ้านเดี่ยว

อยากซื้อบ้านหลังแรก บ้านเดี่ยว กับ ทาวน์โฮม แบบไหนตอบโจทย์ ความคุ้มค่า แต่ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยคุณควรรู้จักไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้ดีเสียก่อน รวมทั้งคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ให้ดี

5 สิ่งที่ต้องคำนึง เมื่อคุณจะซื้อบ้านหลังแรก

หลังจากเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างซื้อทาวน์โฮมกับบ้านเดี่ยวไปแล้ว มนุษย์เงินเดือนที่คิดจะซื้อบ้านหลังแรก ตอนนี้ควรคำนึงถึง 5 ปัจจัยเบื้องต้นเมื่อคิดจะซื้อบ้านหรือกู้บ้านสักหลัง ดังนี้

  • ราคาบ้านและทำเลที่ตั้ง 

เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการซื้อบ้าน เลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา นั่นก็คือ กำลังการผ่อนบ้าน หรือราคาบ้านที่สูงจนเกินไป ลำดับต่อมานั่นก็คือ ทำเลที่ตั้ง จะต้องสะดวกและรวดเร็ว สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว

ในบทความนี้ Clickfindhome เรามี “บ้านมือสอง” ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด หรือที่ดิน ให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อบ้านมือสอง เราพร้อมแนะนำสำหรับทุกความต้องการของคุณ

  • พื้นที่ใช้สอย เพียงพอ สำหรับสมาชิกในครอบครัว

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งในลิสต์ที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อบ้าน เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยอาจไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมาก แต่ต้องตอบโจทย์กับวิถีชีวิตคนในยุคปัจจุบัน เช่น มีห้องอเนกประสงค์ มีมุมสำหรับ Work from home หรือการเรียนออนไลน์

  • ดีไซน์ของบ้าน โครงสร้าง และวัสดุในการตกแต่ง

เชื่อได้เลยว่าปัญหาหนึ่งเวลาซื้อบ้านของใครหลายคน มักจะเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าในแต่ละโครงการ แต่ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นของการเปรียบเทียบ อาจจะต้องย้อนกลับมามองถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการอยู่อาศัยว่า จริงๆ แล้วเราต้องการอะไรในการอาศัยในประชีวิตประจำวัน  และรูปแบบบ้านประเภทไหนถึงจะตอบโจทย์กับคนในครอบครัวของคุณได้มากที่สุด

รวมถึงดีไซน์ของตัวบ้านเองที่ก็ต้องเทียบขนาดการใช้งานระหว่างบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านทาวน์โฮมว่า แบบไหนตอบโจทย์กับวิถีชีวิตได้มากกว่ากัน หลังจากนั้นจึงค่อยเลือกนำโครงการที่มีรูปแบบบ้านที่ต้องการมาพิจารณากันอีกที…เพียงแค่นี้ก็จะช่วยทำให้ลดระยะเวลาในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหลังแรกไปได้เยอะเลยทีเดียว

โครงสร้าง และวัสดุในการตกแต่ง ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่ง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัสดุที่เลือกใช้ ควรคำนึงถึงสภาพอากาศ เช่น ปริมาณแสงแดด ความร้อน ความเย็น ทิศทางลม และฝน หากไม่คำนึงถึงสภาพอากาศที่เพียงพออาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบวม รอยแตกร้าว การผุกร่อน การเกิดสนิม แสงแดดส่องเข้ามาในตัวบ้าน ทำให้บ้านมีอากาศร้อนจนเกินไป เป็นต้น

  • สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย

ส่วนกลาง พื้นที่สำหรับลูกบ้านทุกคนจะได้ใช้งาน สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการบ้านซึ่งแต่ละโครงการก็มีฟังก์ชันที่แตกต่างกัน ไป ถือเป็นปัจจัยพิเศษสำหรับคนที่กำลังจะซื้อบ้าน ว่าพื้นที่ส่วนกลางนี้มาช่วยตอบสนองความต้องการใน ชีวิตของคุณได้หรือไม่

สระว่ายน้ำ ของบางโครงการอาจแบ่งจำแนกเป็นหลายประเภท เช่น สระผู้ใหญ่หรือสระว่ายน้ำของเด็ก หรือพิเศษยิ่งขึ้นคือสระเกลือที่โครงการบ้านต้องดูแลรักษามากเป็นพิเศษ

ห้องออกกำลังกาย ของโครงการนั้นเป็นอย่างไร มีเครื่องออกกำลังกายทันสมัยหรือไม่ เมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้แล้ว คุณก็จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าสมัครฟิตเนสหรือเสียเวลาในการเดินทางอีกต่อไป

พื้นที่สีเขียว ถ้าในโครงการมีต้นไม้ใหญ่ มีสนามหญ้าสวยๆ สามารถวิ่งออกกำลังกายหรือพาลูกน้อยออกมาเดินเล่นได้หรือไม่

ระบบรักษาความปลอดภัย คือ สิ่งสำคัญที่สุดของโครงการบ้าน เช็คให้ดีว่าที่โครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาแค่ไหน ตั้งแต่เข้าโครงการมีเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยเพียงพอกับจุดต่างๆ ในโครงการหรือไม่?

  • วงเงิน ระยะเวลาการกู้ รวมถึงดอกเบี้ย

เรียกว่าเป็นด่านสุดท้ายของการคิดซื้อบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะถ้ากู้ไม่ผ่าน การซื้อบ้านก็ถือว่าเป็นอันยุติทันที แต่ในยุคปัจจุบันต้องบอกเลยว่า มีหลายตัวช่วยที่ทำให้เรื่องกู้บ้านกลายเป็นเรื่องง่าย  โดยที่หลายๆ ธนาคารต่างปรับเงื่อนไขให้สอดคล้องกับมาตรการรัฐที่กระตุ้นคนให้ซื้อบ้าน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ มีโอกาสกู้ซื้อบ้านผ่านได้สูง หรือแม้แต่การพักชำระหนี้ เอื้อให้คนซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรามี บริการที่ปรึกษาวางแผนการเงินจาก The Best Property

“เพราะเราเชื่อว่า บ้านหนึ่งหลัง ไม่ได้มีเรื่องราวแค่ภายในบ้านของคุณเท่านั้น แต่เป็นสภาพแวดล้อม โดยรวมของโครงการที่ออกแบบ เพื่อยกระคุณภาพชีวิต และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณให้ได้มากที่สุด”

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)
04
OCT
เลือกซื้อบ้าน ทาวน์โฮม คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนที่ตอบโจทย์
การซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด สักครั้ง สำหรับบางคนแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เรื่องหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นบ้านหลังแรกแล้ว คำถามที่ตามมา จะเริ่มต้นจากตรงไหน? แล้วอสังหาฯ แบบไหน คือสิ่งที่คุณต้องการ Clickfindhome ได้รวบรวมข้อมูลสำหรับ ใครที่กำลังจะซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของคุณ   อสังหาฯ ประเภทไหน ที่ตรงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด โดยหลักๆ จะแบ่งได้ 4 ประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด เหมาะสำหรับคู่รัก ครอบครัวขนาดเล็ก จนไปถึงครอบครัวขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา ขึ้นไป มีความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยมาก กว้างขวาง โปร่งสบาย ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแบบอื่น ๆ ซึ่งตามกฏหมายนั้น บ้านเดี่ยวจะต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป มีการเว้นระยะห่างของตัวบ้านทุกด้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตร มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ กิจกรรมกลางแจ้ง ได้ให้สามารถออกกำลังกายกันได้ มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่น มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร บ้านแฝด บ้านแฝดจะมีผนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านติดกับบ้านอีกหลัง และอีกด้านของบ้านจะเป็นที่ว่างที่เว้นระยะจากบ้านข้างเคียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร มีเนื้อที่ดิน ไม่ต่ำกว่า 35 ตร.วา แต่ไม่เกิน 50 ตร.วา ทำให้ดูคล้าย ๆ ว่าเป็นบ้าน 2 หลังที่อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่มีพื้นที่น้อยกว่า มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบ้านเดี่ยว มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้พื้นที่ใช้สอย ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยว ซึ่งบ้านแฝดมี 4 ประเภท โดยมีการแบ่งตามลักษณะของโครงสร้างดังนี้ บ้านแฝดที่มีผนังร่วมกัน รูปแบบบ้านแฝดลักษณะนี้จะออกแบบให้มีโครงสร้างผนังด้านใดด้านหนึ่งติดกัน บ้านแฝดที่มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านร่วมกัน สำหรับโครงสร้างบ้านแฝดนี้ จะออกแบบตัวแบบบ้านให้มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านติดกัน เช่น ส่วนของคานด้านบน หรือส่วนของหลังคาโรงจอดรถ บ้านแฝดที่มีคานใต้ดินเชื่อมต่อกัน ออกแบบให้มีคานบริเวณใต้ดินเชื่อมต่อกัน ส่วนด้านบนจะไม่มีส่วนไหนเชื่อมต่อกันเลย จึงทำให้มองเผินๆ เหมือนบ้านเดี่ยว แต่แตกต่างตรงที่พื้นที่ตัวบ้านจะไม่ถึง 50 ตร.วา บ้านแฝดที่มีคานด้านบนเชื่อมต่อกัน จะมีส่วนคานด้านบนและบริเวณโรงจอดรถเชื่อมต่อกัน ทำให้มีข้อดีคือได้พื้นที่ใช้สอยรอบบ้านเพิ่มมากขึ้น   ทาวน์โฮม รูปแบบบ้านที่ผนังทั้ง 2 ด้าน ติดกับบ้านหลังอื่น ส่วนที่เป็นรั้วมักจะเป็นปิดแค่หน้าบ้านเท่านั้น มีดีไซน์ทันสมัย มักมีการวางผังพื้นที่ใช้สอยให้คล้ายคลึงกับบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยมากกว่าทาวน์เฮ้าส์ มีให้เลือกทั้ง 2-3 ชั้น และมีพื้นที่ด้านหน้าบ้านกว้างขวาง ประมาณ 5-5.7 เมตร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และนอกจากนี้ ในหลาย ๆ โครงการของ ทาวน์โฮมยังมีพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำให้บริการอีกด้วย ทาวน์เฮ้าส์ จะมีลักษณะคล้ายกับทาวน์โฮมคือ ผนังบ้านจะติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝั่ง และมีจำนวนบ้านอยู่ติดกันตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีพื้นที่หน้าบ้านจะกว้างประมาณ 4-5 เมตร เท่านั้น และมีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ส่วนกลางคอยให้บริการ จึงทำให้ทาวน์เฮ้าส์หลายๆ ที่มีราคาค่อนข้างต่ำนั่นเอง คอนโดมิเนียม เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยทำเลใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แนวรถไฟฟ้า มีหลากหลายราคา ตามทำเลและขนาดห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส หรือบริการส่วนกลางต่าง ๆ หรือต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในอนาคต ทำเล ที่ใช่สำหรับคุณ การเลือกซื้อบ้านสักหลัง ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจัยสำคัญที่เราต้องนึกถึงนอกจากดีไซน์ พื้นที่ ฟังก์ชัน หรือราคา ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ลองมาดูกันว่าวิธีการเลือกทำเลให้ลงตัวกับชีวิต มีอะไรบ้าง? ทำเลดี เดินทางสะดวก ที่ต้องคำนึงถึงเป็นที่สุด คือ ระยะทางในการเดินทาง ไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ดังนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดฯ อาจจะต้องอยู่ใกล้สถานที่เหล่านี้ เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ดีที่สุด อันดับต่อไปนั่นก็คือ ความสะดวกในการเดินทาง เส้นทางคมนาคม รถสาธารณะต่าง ๆ เข้าถึงหรือไม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาถึงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า หรือทางด่วน เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในปัจจุบันก็คือ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือโรงพยาบาล ก็ถือเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเช่นกัน จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว วันนี้ Clickfindhome ของเรามีบ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง คอนโดมือสอง มากกว่า 10,000 รายการ เพื่อนำเสนอบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าน์ คอนโด ที่ดิน และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ทำเลและราคาที่คุ้มค่า เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลย่านกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรีและอื่นๆ อีกมากมาย ให้ได้ดีที่สุด บรรยากาศดี อากาศดี เงียบสงบ สภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัย รู้สึกผ่อนคลายและมีสุขภาพใจที่ดี ดังนั้นแล้วสิ่งแวดล้อม อากาศ รวมไปถึงเสียงรบกวนต่าง ๆ ก็ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด บ้านในเมือง หรือ บ้านชานเมือง แบบไหนที่ตอบโจทย์! การเลือกซื้อบ้าน สิ่งที่หลายๆ คนคิดไม่ตก ว่าจะเลือกซื้อบ้านแบบไหน ในทำเลใด เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่..วันนี้เรามีข้อมูลมาให้คุณแล้ว บ้านในเมือง มักจะอยู่ใกล้กับแหล่งออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า การเดินทางสะดวก เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เติบโตอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการลงทุน แต่สิ่งที่คุณจะได้รับนั่นก็คือ บ้านในเมืองมักจะมีพื้นที่สีเขียวน้อยกว่า สภาพแวดล้อมวุ่นวาย ความเป็นส่วนตัวน้อย มีเสียงดังรบกวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถยนต์บนท้องถนน การจราจรติดขัด มีความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะแตกต่างจาก บ้านชานเมือง อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบกว่า มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า ไม่วุ่นวายจากความเร่งรีบ หมดปัญหาเรื่องรถติด บริหารเวลาได้อย่างลงตัว แต่ก็ต้องเดินทางไกล ใช้ระยะเวลามากกว่า สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ครบครันเท่าบ้านในเมือง การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง คอนโดมือสอง สักหลังคงจะไม่มีคำตอบที่ว่าถูกหรือผิด! ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงความสามารถทางการเงินของคุณด้วยนั่นเอง เพราะบ้านหลังนี้ จะเต็มไปด้วยความสุข และความทรงจำดีๆ ของคุณตลอดไป ราคาขายต่อที่ดี ในอนาคต ซึ่งหากพื้นที่ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเจริญมากขึ้นในอนาคต เช่น โครงการรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้มูลค่าของบ้านในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอนาคตแน่นอน หลายปีที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรปราการ มีแนวโน้มความเจริญที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการเดินทางที่สะดวกใกล้แหล่งเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ สมุทรปราการเป็นเมืองที่มีความเจริญและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
04
OCT
ดอกเบี้ยบ้าน อัพเดทล่าสุด สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร ตุลาคม 2567
ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร  สำหรับผู้ซื้อบ้านมือหนึ่ง มือสอง และผู้ซื้อบ้านหลังแรกในราคาดอกเบี้ยบ้านต่ำ สินเชื่อบ้านธนาคารไหนดีที่สุด 2567 ปีล่าสุด เพื่อเปรียบเทียบและพร้อมอธิบายดอกเบี้ยบ้านแต่ละธนาคารอย่างชัดเจน  ใช้หลักเกณฑ์ในการทำสินเชื่อจากปัจจัยใดบ้าง มีการคำนวณจำนวนเงินในการผ่อนดอกเบี้ยบ้าน ช่วง 1-3 ปีแรก เท่าไหร่ให้ผู้ซื้อบ้านสามารถเข้าใจง่ายๆ ได้ในบทความนี้ อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ บ้าน-คอนโด ปี 2567 Clickfindhome.com ได้เปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน 8 ธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยบ้านประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโด ที่มีเงื่อนไขในการกู้เงินซื้อบ้านจำนวนวงเงินสูงสุดที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจ ของแต่ละธนาคาร ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร จะกู้ซื้อบ้านธนาคารไหนดี? แต่ละธนาคารมีรูปแบบสินเชื่อ ที่น่าสนใจ รูปแบบไหนบ้าง และเหมาะกับใคร ถึงจะได้ดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ “ถูกที่สุด” ที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้จ่ายค่าดอกเบี้ยบ้านเปอร์เซ็นต์ (%) น้อยที่สุด :ซึ่งทาง The Best Property ได้จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน และรูปแบบสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคาร มาไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว มีดังนี้ 1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส (G H Bank)  สินเชื่อนโยบายรัฐ โครงการ สินเชื่อบ้าน Happy Home ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1-5 = 3.00% โดยให้ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท ต่อรายต่อหลักประกัน โดยกำหนดระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี และกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 และทำนิติกรรมจนกว่าสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สินเชื่อ Mild Home ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.90% ต่อปี ระยะเวลากู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 2,500 บาทเท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแตวันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ 1.95% ต่อปี, ปีที่ 2-3 คงที่เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98% เท่านั้น) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี , ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และกรณีชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน เท่านั้น! โดย ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อดังกล่าวจำนวน 11,228 ล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่กำหนด 10,000 ล้านบาทแล้ว ธอส.จึงปรับเพิ่มกรอบวงเงินสินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 อีก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 2. ธนาคารออมสิน (GSB) สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.95% เฉลี่ย 3 ปี 2.95% พร้อมทางเลือกเงินงวดผ่อนชำระปีที่ 1 ล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน ปีที่ 2 ล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน และปีที่ 3 ล้านละ 4,500 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น 8,200 บาทต่อเดือนสำหรับกรณีผู้กู้ประสงค์ ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อโดยวงเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยมีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 30 ธ.ค. 2567 หรือจนกว่าครบวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 30 ม.ค. 2568 สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง ช่วยสานฝันเรื่องบ้านให้เป็นจริงด้วยเงื่อนไขสบายๆ ธนาคารออมสินเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความต้องการมีบ้าน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตที่ดี จึงมุ่งส่งเสริมและช่วยสานฝันของท่านให้เป็นจริง ด้วยเงื่อนไขสบายๆ และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จบทุกความต้องการเรื่องบ้านที่เดียวครบ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 1.800% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) เฉลี่ย 3 ปี 4.795% จำนวนเงินให้กู้ ให้กู้กรณีเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย รวมถึงกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย และกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย รวมกันสูงสุดไม่เกินร้อยละ 110 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า *ทั้งนี้ เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาชำระเงินกู้ กรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาชำระเงินกู้ตามกรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือกรณีที่มีการกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ไม่เกิน 30 ปี สำหรับ สินเชื่อเคหะทั่วไป สินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และสินเชื่อ GSB Green Home Loan บ้านประหยัดพลังงาน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.795% กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ และมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 5.295% กรณีผู้กู้ไม่ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 110% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.595% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 3. ธนาคารกรุงไทย (KTB) สินเชื่อบ้านแทนคุณ มีเอกสารดูแลพ่อแม่ เช่น ทะเบียนบ้านร่วมกัน การหักลดหย่อนภาษี กรรมธรรม์ประกัน เป็นต้น สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน ปลูกสร้างบ้าน และสำหรับรีไฟแนนซ์ จากสถาบันการเงินอื่น มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.57% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1-4 = 1.44% เดือนที่ 5-12 = 2.44% และปีที่ 2-3 = 4.30% โดยทางธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 100% และระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่, ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง, เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน คงที่ 3 ปี เริ่มต้นปีแรก 1.59% ต่อปี* เลือกผ่อนต่ำได้* ธนาคารออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อบ้านกรุงไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 58 ปี กู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง และกู้สร้างบ้าน สูงสุด 40 ปี ดอกเบี้ยกู้บ้านคงที่ 3 ปี เริ่มต้น 1.58% ต่อปี นาน 7 เดือน* เลิอกผ่อนต่ำ ล้านละ 2,800 บาท/เดือน นาน 7 เดือน วงเงินกู้ซื้อบ้านสูงสุด 100% อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566) 4. ธนาคารยูโอบี (UOB) สินเชื่อบ้านยูโอบี (UOB Home Loan) สินเชื่อที่ธนาคารให้กู้ยืม หรือการกู้เงินจากธนาคาร เพื่อนำไปซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด หรือปลูกสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ กู้ซื้อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง อนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 100% กรณีซื้อบ้านใหม่ วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 95-100% สำหรับต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) กรณีซื้อบ้านมือสอง วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 80-90% สำหรับ ต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 4.55% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกัน MRTA) เฉลี่ย 3 ปี 4.55% กรณีเพื่อก่อสร้างบ้าน วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมินที่ดินรวมกับค่าก่อสร้างบ้าน (70% ของราคาประเมินที่ดิน บวก 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างบ้าน) เลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้นานสูงสุด 30 ปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท (15 - 30 ล้านบาท สำหรับต่างจังหวัด) สำหรับลูกค้าที่ยื่นคำขอสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 – 28 มิ.ย. 67 และ จดจำนองหลักประกันกับธนาคารภายในวันที่ 31 ก.ค. 67 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.80% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566) 5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งต่ำ วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่* หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง สบายๆ กับการผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี) *สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการ Top Group / Super Prime 1-A (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด) ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.50%* ประเมินหลักประกัน** /  ค่าจดจำนอง *** ฟรี ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% **** * สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตรา ** ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 พ.ค. 67 - 31 ส.ค. 67) *** ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น **** เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา  อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566) 6. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านมือสอง หรือบ้านหลุดจำนองของธนาคาร ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า สภาพดี ทำเลดี ราคาพิเศษ วงเงินกู้ยืมสูงสุด 95% อายุสัญญา 20 ปี ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี การพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไป อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 0.045% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 7.255% พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยสําหรับลูกค้าซื้อทรัพย์ NPA/NPL ของธนาคารเฉพาะโครงการที่กําหนด อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 3.79% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 3.79% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566​) 7. ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) สินเชื่อบ้าน เพื่อกู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อคอนโด กู้ปลูกสร้างบ้าน สมัครง่าย วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 100,000 บาท/เดือน กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ กลุ่มลูกค้าประกอบวิชาชีพพิเศษ* ไม่จำกัดระดับรายได้ กู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด พิเศษสำหรับลูกค้าทั่วไป กู้ซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้สุทธิแค่เดือนละ 15,000 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) กู้ซื้อบ้านได้ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินตนเอง (ปลอดภาระ) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง(ปลอดภาระ) กำหนดวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาค่าก่อสร้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินแบบสิ่งปลูกสร้าง ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ผ่อนได้นานจนถึงอายุ 70 ปี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคาร รายได้ประจำ ผู้ประกอบการ อาชีพอิสระ ก็ยื่นกู้ซื้อบ้านได้ สำหรับลูกค้าที่สมัครตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 – 30 มิถุนายน 2567 และจดจำนองภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566​) 8. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) สินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าทั่วไป ให้บ้านในฝันกลายเป็นจริงได้ ด้วยทางเลือกหลากหลายกับอัตราดอกเบี้ยที่ลงตัวเพื่อคุณ วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกันวงเงินกู้เพิ่มเติมจากวงเงินสูงสุดเพื่อซื้อประกันชีวิตคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ และประกันอัคคีภัยระยะยาว ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี(เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่ ค่าประเมินหลักประกัน ขั้นต่ำ 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อทั้งนี้ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และจำนวนของหลักประกัน อ้างอิงตามประกาศธนาคารในเว็บไซต์ หรือประกาศ ณ สาขา อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)
05
OCT
ส่องเทรนด์สังคมผู้สูงวัย บ้านแบบไหนโดนใจวัยเกษียณ
บ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยควรเป็นแบบไหน…?   ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ในแง่ของการออกแบบที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุนั้น ก็ย่อมต้องมีความแตกต่างกับที่พักอาศัยแบบทั่วไปอยู่แล้ว โดยที่จะต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ดังนั้นทั้งภายนอกและภายในของที่อยู่อาศัย เน้นการออกแบบตามหลัก “Universal Design” โดยครอบคลุมการใช้งานสำหรับคนทุก ๆ วัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทางลาด ราวจับ บันได และระยะภายในห้องที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้ ที่สำคัญคือการเลือกใช้วัสดุ ในการป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปูพื้น และอุปกรณ์ป้องกันการลื่นล้ม แม้กระทั่ง เฟอร์นิเจอร์ในห้องต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่ต้องเอื้อมหรือก้มเพื่อหยิบจับ ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์เตือนก่อนล้ม เฝ้าระวังสูงวัย/ผู้ป่วย เพื่อลดภาระงานผู้ดูแล   จัดบ้านยังไงให้เหมาะกับผู้สูงอายุ ในขณะที่สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว Clickfindhome ขอนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการออกแบบ และ ตกแต่ง บ้านมือสอง ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ หรือมีข้อไหนที่ควรระมัดระวังบ้างมาฝากกันค่ะ ห้องนอน ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุควรมีช่องหรือกระจกบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีพื้นที่อย่างน้อย 16-20 ตารางเมตร สำหรับทำกิจกรรม หรืองานอดิเรก ส่วนเตียงนอนควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร (ระดับหัวเข่า) และมีพื้นที่รอบๆ มุมเตียง ควรมีวัสดุป้องกันการกระแทก บริเวณหัวเตียงควรติดตั้งปุ่มฉุกเฉินหรือโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ นั่นก็คือ บ้านเดี่ยว ที่ Clickfindhome มีให้เลือกมากมายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังควรเผื่อพื้นที่สำหรัลวีลแชร์โดยต้องมีระยะหมุน 1.5 เมตรด้วย และที่สำคัญที่สุดควรจัดห้องนอนไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน พร้อมมีห้องน้ำในตัวหรืออยู่ใกล้ห้องนอนผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อการใช้งานอันสะดวกสบายค่ะ ห้องน้ำ ห้องน้ำควรกว้างอย่างน้อย 1.5 x 2 เมตร ประตูห้องน้ำกว้างอย่างน้อย 90 ซม. แนะนำว่าควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือบานเปิดออก ระดับพื้นห้องน้ำควรเท่ากับห้องนอน ป้องกันการสะดุดล้มจาก Step ที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือต้องเป็นวัสดุกันลื่น พื้นผิวหยาบ และทำความสะอาดง่าย ควรจะต้องติดตั้งราวจับไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น โถสุขภัณฑ์ บริเวณที่อาบน้ำ เป็นต้น พร้อมทั้งแยกโซนแห้ง / โซนเปียก สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำควรมีลักษณะโค้งมน โค้งเว้า ใช้งานง่าย ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ภายในห้องน้ำควรมีระยะหมุนตัวสำหรับรถเข็นไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตรด้วย สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “แสงสว่าง” ในห้องน้ำ ต้องสว่างเพียงพอ ควรใช้หลอดไฟสีขาว ซึ่งจะทำให้การมองเห็นดีกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ ห้องนั่งเล่น ถือว่าเป็นห้องหลัก สำหรับทุกคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนั้นจึงควรสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย มีพื้นที่โล่ง และไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ควรจัดวางให้ชิดกำแพง ลบมุมให้มีความโค้งเว้า หรือหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก ควรใช้หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นผ่านเข้าไปได้ และสามารถเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ด้วยค่ะ บริเวณบันไดขึ้น-ลง ในบางกรณี ที่มีความจำเป็นหากห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ชั้นบน ซึ่งมีความเสี่ยง ที่อาจสะดุดพลัดตกจากบันได ดังนั้นบ้านผู้สูงอายุจึงควรปรับบันไดให้มีความกว้างที่เหมาะสม ขั้นบันได ควรสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ความกว้างอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ควรมีราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ในระยะ 80 เซนติเมตรจากพื้น และมีแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากนั้น เราขอแนะนำให้ติดตั้ง “ลิฟต์บันได” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในการขึ้น-ลงบ้าน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริเวณรอบบ้าน ทางเข้าบ้านและบริเวณอื่น ๆ พื้นทางเดินควรเรียบ ในกรณีที่มีทางลาดเข้าบ้าน ควรต้องมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 5 องศา หรือ 1:12 คือระยะความสูง 1 เมตร ต้องใช้ความยาวทางลาด 12 เมตร มีพื้นที่ว่างหน้าทางลาดไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ใช้วัสดุพื้นผิวไม่ลื่น มีขอบกั้นและราวจับตลอดแนวทางลาด สำหรับความกว้างทางเดินควรกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็น ผู้สูงอายุเองก็ยังต้องการการผ่อนคลายไม่ต่างจากคนหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไป ดังนั้นควรเลือกบ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบพื้นที่ให้เป็น Universal Design ที่เอื้อให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้อย่างเท่าเทียมกัน แบบบ้านที่ใช่ สิ่งแวดล้อมที่ลงตัว ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 บ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม สำหรับผู้สูงอายุ ควรต้องมีภูมิทัศน์ที่ดี เปิดโล่ง ไม่รู้สึกอึดอัด อากาศถ่ายเทสะดวก สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดี สุขภาพจิตที่ดี ย่อมทำให้ สุขภาพกายแข็งแรงตามด้วยเช่นกัน การเลือกบ้านสักหลัง เพื่อให้ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสังคม ความปลอดภัย บ้านสวยตรงใจ ธรรมชาติที่แสนร่มรื่นได้ทุก ๆ วัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น
04
OCT
เลือกซื้อบ้าน ทาวน์โฮม คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนที่ตอบโจทย์
การซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด สักครั้ง สำหรับบางคนแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เรื่องหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นบ้านหลังแรกแล้ว คำถามที่ตามมา จะเริ่มต้นจากตรงไหน? แล้วอสังหาฯ แบบไหน คือสิ่งที่คุณต้องการ Clickfindhome ได้รวบรวมข้อมูลสำหรับ ใครที่กำลังจะซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของคุณ   อสังหาฯ ประเภทไหน ที่ตรงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด โดยหลักๆ จะแบ่งได้ 4 ประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด เหมาะสำหรับคู่รัก ครอบครัวขนาดเล็ก จนไปถึงครอบครัวขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา ขึ้นไป มีความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยมาก กว้างขวาง โปร่งสบาย ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแบบอื่น ๆ ซึ่งตามกฏหมายนั้น บ้านเดี่ยวจะต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป มีการเว้นระยะห่างของตัวบ้านทุกด้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตร มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ กิจกรรมกลางแจ้ง ได้ให้สามารถออกกำลังกายกันได้ มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่น มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร บ้านแฝด บ้านแฝดจะมีผนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านติดกับบ้านอีกหลัง และอีกด้านของบ้านจะเป็นที่ว่างที่เว้นระยะจากบ้านข้างเคียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร มีเนื้อที่ดิน ไม่ต่ำกว่า 35 ตร.วา แต่ไม่เกิน 50 ตร.วา ทำให้ดูคล้าย ๆ ว่าเป็นบ้าน 2 หลังที่อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่มีพื้นที่น้อยกว่า มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบ้านเดี่ยว มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้พื้นที่ใช้สอย ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยว ซึ่งบ้านแฝดมี 4 ประเภท โดยมีการแบ่งตามลักษณะของโครงสร้างดังนี้ บ้านแฝดที่มีผนังร่วมกัน รูปแบบบ้านแฝดลักษณะนี้จะออกแบบให้มีโครงสร้างผนังด้านใดด้านหนึ่งติดกัน บ้านแฝดที่มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านร่วมกัน สำหรับโครงสร้างบ้านแฝดนี้ จะออกแบบตัวแบบบ้านให้มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านติดกัน เช่น ส่วนของคานด้านบน หรือส่วนของหลังคาโรงจอดรถ บ้านแฝดที่มีคานใต้ดินเชื่อมต่อกัน ออกแบบให้มีคานบริเวณใต้ดินเชื่อมต่อกัน ส่วนด้านบนจะไม่มีส่วนไหนเชื่อมต่อกันเลย จึงทำให้มองเผินๆ เหมือนบ้านเดี่ยว แต่แตกต่างตรงที่พื้นที่ตัวบ้านจะไม่ถึง 50 ตร.วา บ้านแฝดที่มีคานด้านบนเชื่อมต่อกัน จะมีส่วนคานด้านบนและบริเวณโรงจอดรถเชื่อมต่อกัน ทำให้มีข้อดีคือได้พื้นที่ใช้สอยรอบบ้านเพิ่มมากขึ้น   ทาวน์โฮม รูปแบบบ้านที่ผนังทั้ง 2 ด้าน ติดกับบ้านหลังอื่น ส่วนที่เป็นรั้วมักจะเป็นปิดแค่หน้าบ้านเท่านั้น มีดีไซน์ทันสมัย มักมีการวางผังพื้นที่ใช้สอยให้คล้ายคลึงกับบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยมากกว่าทาวน์เฮ้าส์ มีให้เลือกทั้ง 2-3 ชั้น และมีพื้นที่ด้านหน้าบ้านกว้างขวาง ประมาณ 5-5.7 เมตร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และนอกจากนี้ ในหลาย ๆ โครงการของ ทาวน์โฮมยังมีพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำให้บริการอีกด้วย ทาวน์เฮ้าส์ จะมีลักษณะคล้ายกับทาวน์โฮมคือ ผนังบ้านจะติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝั่ง และมีจำนวนบ้านอยู่ติดกันตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีพื้นที่หน้าบ้านจะกว้างประมาณ 4-5 เมตร เท่านั้น และมีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ส่วนกลางคอยให้บริการ จึงทำให้ทาวน์เฮ้าส์หลายๆ ที่มีราคาค่อนข้างต่ำนั่นเอง คอนโดมิเนียม เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยทำเลใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แนวรถไฟฟ้า มีหลากหลายราคา ตามทำเลและขนาดห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส หรือบริการส่วนกลางต่าง ๆ หรือต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในอนาคต ทำเล ที่ใช่สำหรับคุณ การเลือกซื้อบ้านสักหลัง ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจัยสำคัญที่เราต้องนึกถึงนอกจากดีไซน์ พื้นที่ ฟังก์ชัน หรือราคา ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ลองมาดูกันว่าวิธีการเลือกทำเลให้ลงตัวกับชีวิต มีอะไรบ้าง? ทำเลดี เดินทางสะดวก ที่ต้องคำนึงถึงเป็นที่สุด คือ ระยะทางในการเดินทาง ไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ดังนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดฯ อาจจะต้องอยู่ใกล้สถานที่เหล่านี้ เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ดีที่สุด อันดับต่อไปนั่นก็คือ ความสะดวกในการเดินทาง เส้นทางคมนาคม รถสาธารณะต่าง ๆ เข้าถึงหรือไม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาถึงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า หรือทางด่วน เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในปัจจุบันก็คือ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือโรงพยาบาล ก็ถือเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเช่นกัน จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว วันนี้ Clickfindhome ของเรามีบ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง คอนโดมือสอง มากกว่า 10,000 รายการ เพื่อนำเสนอบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าน์ คอนโด ที่ดิน และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ทำเลและราคาที่คุ้มค่า เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลย่านกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรีและอื่นๆ อีกมากมาย ให้ได้ดีที่สุด บรรยากาศดี อากาศดี เงียบสงบ สภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัย รู้สึกผ่อนคลายและมีสุขภาพใจที่ดี ดังนั้นแล้วสิ่งแวดล้อม อากาศ รวมไปถึงเสียงรบกวนต่าง ๆ ก็ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด บ้านในเมือง หรือ บ้านชานเมือง แบบไหนที่ตอบโจทย์! การเลือกซื้อบ้าน สิ่งที่หลายๆ คนคิดไม่ตก ว่าจะเลือกซื้อบ้านแบบไหน ในทำเลใด เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่..วันนี้เรามีข้อมูลมาให้คุณแล้ว บ้านในเมือง มักจะอยู่ใกล้กับแหล่งออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า การเดินทางสะดวก เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เติบโตอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการลงทุน แต่สิ่งที่คุณจะได้รับนั่นก็คือ บ้านในเมืองมักจะมีพื้นที่สีเขียวน้อยกว่า สภาพแวดล้อมวุ่นวาย ความเป็นส่วนตัวน้อย มีเสียงดังรบกวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถยนต์บนท้องถนน การจราจรติดขัด มีความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะแตกต่างจาก บ้านชานเมือง อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบกว่า มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า ไม่วุ่นวายจากความเร่งรีบ หมดปัญหาเรื่องรถติด บริหารเวลาได้อย่างลงตัว แต่ก็ต้องเดินทางไกล ใช้ระยะเวลามากกว่า สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ครบครันเท่าบ้านในเมือง การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง คอนโดมือสอง สักหลังคงจะไม่มีคำตอบที่ว่าถูกหรือผิด! ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงความสามารถทางการเงินของคุณด้วยนั่นเอง เพราะบ้านหลังนี้ จะเต็มไปด้วยความสุข และความทรงจำดีๆ ของคุณตลอดไป ราคาขายต่อที่ดี ในอนาคต ซึ่งหากพื้นที่ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเจริญมากขึ้นในอนาคต เช่น โครงการรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้มูลค่าของบ้านในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอนาคตแน่นอน หลายปีที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรปราการ มีแนวโน้มความเจริญที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการเดินทางที่สะดวกใกล้แหล่งเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ สมุทรปราการเป็นเมืองที่มีความเจริญและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
04
OCT
ดอกเบี้ยบ้าน อัพเดทล่าสุด สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร ตุลาคม 2567
ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร  สำหรับผู้ซื้อบ้านมือหนึ่ง มือสอง และผู้ซื้อบ้านหลังแรกในราคาดอกเบี้ยบ้านต่ำ สินเชื่อบ้านธนาคารไหนดีที่สุด 2567 ปีล่าสุด เพื่อเปรียบเทียบและพร้อมอธิบายดอกเบี้ยบ้านแต่ละธนาคารอย่างชัดเจน  ใช้หลักเกณฑ์ในการทำสินเชื่อจากปัจจัยใดบ้าง มีการคำนวณจำนวนเงินในการผ่อนดอกเบี้ยบ้าน ช่วง 1-3 ปีแรก เท่าไหร่ให้ผู้ซื้อบ้านสามารถเข้าใจง่ายๆ ได้ในบทความนี้ อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ บ้าน-คอนโด ปี 2567 Clickfindhome.com ได้เปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน 8 ธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยบ้านประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโด ที่มีเงื่อนไขในการกู้เงินซื้อบ้านจำนวนวงเงินสูงสุดที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจ ของแต่ละธนาคาร ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร จะกู้ซื้อบ้านธนาคารไหนดี? แต่ละธนาคารมีรูปแบบสินเชื่อ ที่น่าสนใจ รูปแบบไหนบ้าง และเหมาะกับใคร ถึงจะได้ดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ “ถูกที่สุด” ที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้จ่ายค่าดอกเบี้ยบ้านเปอร์เซ็นต์ (%) น้อยที่สุด :ซึ่งทาง The Best Property ได้จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน และรูปแบบสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคาร มาไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว มีดังนี้ 1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส (G H Bank)  สินเชื่อนโยบายรัฐ โครงการ สินเชื่อบ้าน Happy Home ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1-5 = 3.00% โดยให้ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท ต่อรายต่อหลักประกัน โดยกำหนดระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี และกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 และทำนิติกรรมจนกว่าสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สินเชื่อ Mild Home ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.90% ต่อปี ระยะเวลากู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 2,500 บาทเท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแตวันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ 1.95% ต่อปี, ปีที่ 2-3 คงที่เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98% เท่านั้น) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี , ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และกรณีชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน เท่านั้น! โดย ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อดังกล่าวจำนวน 11,228 ล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่กำหนด 10,000 ล้านบาทแล้ว ธอส.จึงปรับเพิ่มกรอบวงเงินสินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 อีก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 2. ธนาคารออมสิน (GSB) สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.95% เฉลี่ย 3 ปี 2.95% พร้อมทางเลือกเงินงวดผ่อนชำระปีที่ 1 ล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน ปีที่ 2 ล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน และปีที่ 3 ล้านละ 4,500 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น 8,200 บาทต่อเดือนสำหรับกรณีผู้กู้ประสงค์ ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อโดยวงเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยมีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 30 ธ.ค. 2567 หรือจนกว่าครบวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 30 ม.ค. 2568 สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง ช่วยสานฝันเรื่องบ้านให้เป็นจริงด้วยเงื่อนไขสบายๆ ธนาคารออมสินเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความต้องการมีบ้าน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตที่ดี จึงมุ่งส่งเสริมและช่วยสานฝันของท่านให้เป็นจริง ด้วยเงื่อนไขสบายๆ และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จบทุกความต้องการเรื่องบ้านที่เดียวครบ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 1.800% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) เฉลี่ย 3 ปี 4.795% จำนวนเงินให้กู้ ให้กู้กรณีเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย รวมถึงกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย และกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย รวมกันสูงสุดไม่เกินร้อยละ 110 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า *ทั้งนี้ เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาชำระเงินกู้ กรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาชำระเงินกู้ตามกรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือกรณีที่มีการกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ไม่เกิน 30 ปี สำหรับ สินเชื่อเคหะทั่วไป สินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และสินเชื่อ GSB Green Home Loan บ้านประหยัดพลังงาน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.795% กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ และมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 5.295% กรณีผู้กู้ไม่ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 110% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.595% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 3. ธนาคารกรุงไทย (KTB) สินเชื่อบ้านแทนคุณ มีเอกสารดูแลพ่อแม่ เช่น ทะเบียนบ้านร่วมกัน การหักลดหย่อนภาษี กรรมธรรม์ประกัน เป็นต้น สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน ปลูกสร้างบ้าน และสำหรับรีไฟแนนซ์ จากสถาบันการเงินอื่น มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.57% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1-4 = 1.44% เดือนที่ 5-12 = 2.44% และปีที่ 2-3 = 4.30% โดยทางธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 100% และระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่, ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง, เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน คงที่ 3 ปี เริ่มต้นปีแรก 1.59% ต่อปี* เลือกผ่อนต่ำได้* ธนาคารออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อบ้านกรุงไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 58 ปี กู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง และกู้สร้างบ้าน สูงสุด 40 ปี ดอกเบี้ยกู้บ้านคงที่ 3 ปี เริ่มต้น 1.58% ต่อปี นาน 7 เดือน* เลิอกผ่อนต่ำ ล้านละ 2,800 บาท/เดือน นาน 7 เดือน วงเงินกู้ซื้อบ้านสูงสุด 100% อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566) 4. ธนาคารยูโอบี (UOB) สินเชื่อบ้านยูโอบี (UOB Home Loan) สินเชื่อที่ธนาคารให้กู้ยืม หรือการกู้เงินจากธนาคาร เพื่อนำไปซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด หรือปลูกสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ กู้ซื้อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง อนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 100% กรณีซื้อบ้านใหม่ วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 95-100% สำหรับต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) กรณีซื้อบ้านมือสอง วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 80-90% สำหรับ ต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 4.55% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกัน MRTA) เฉลี่ย 3 ปี 4.55% กรณีเพื่อก่อสร้างบ้าน วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมินที่ดินรวมกับค่าก่อสร้างบ้าน (70% ของราคาประเมินที่ดิน บวก 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างบ้าน) เลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้นานสูงสุด 30 ปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท (15 - 30 ล้านบาท สำหรับต่างจังหวัด) สำหรับลูกค้าที่ยื่นคำขอสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 – 28 มิ.ย. 67 และ จดจำนองหลักประกันกับธนาคารภายในวันที่ 31 ก.ค. 67 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.80% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566) 5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งต่ำ วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่* หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง สบายๆ กับการผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี) *สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการ Top Group / Super Prime 1-A (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด) ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.50%* ประเมินหลักประกัน** /  ค่าจดจำนอง *** ฟรี ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% **** * สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตรา ** ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 พ.ค. 67 - 31 ส.ค. 67) *** ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น **** เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา  อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566) 6. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านมือสอง หรือบ้านหลุดจำนองของธนาคาร ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า สภาพดี ทำเลดี ราคาพิเศษ วงเงินกู้ยืมสูงสุด 95% อายุสัญญา 20 ปี ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี การพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไป อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 0.045% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 7.255% พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยสําหรับลูกค้าซื้อทรัพย์ NPA/NPL ของธนาคารเฉพาะโครงการที่กําหนด อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 3.79% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 3.79% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566​) 7. ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) สินเชื่อบ้าน เพื่อกู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อคอนโด กู้ปลูกสร้างบ้าน สมัครง่าย วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 100,000 บาท/เดือน กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ กลุ่มลูกค้าประกอบวิชาชีพพิเศษ* ไม่จำกัดระดับรายได้ กู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด พิเศษสำหรับลูกค้าทั่วไป กู้ซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้สุทธิแค่เดือนละ 15,000 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) กู้ซื้อบ้านได้ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินตนเอง (ปลอดภาระ) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง(ปลอดภาระ) กำหนดวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาค่าก่อสร้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินแบบสิ่งปลูกสร้าง ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ผ่อนได้นานจนถึงอายุ 70 ปี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคาร รายได้ประจำ ผู้ประกอบการ อาชีพอิสระ ก็ยื่นกู้ซื้อบ้านได้ สำหรับลูกค้าที่สมัครตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 – 30 มิถุนายน 2567 และจดจำนองภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566​) 8. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) สินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าทั่วไป ให้บ้านในฝันกลายเป็นจริงได้ ด้วยทางเลือกหลากหลายกับอัตราดอกเบี้ยที่ลงตัวเพื่อคุณ วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกันวงเงินกู้เพิ่มเติมจากวงเงินสูงสุดเพื่อซื้อประกันชีวิตคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ และประกันอัคคีภัยระยะยาว ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี(เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่ ค่าประเมินหลักประกัน ขั้นต่ำ 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อทั้งนี้ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และจำนวนของหลักประกัน อ้างอิงตามประกาศธนาคารในเว็บไซต์ หรือประกาศ ณ สาขา อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)
05
OCT
ส่องเทรนด์สังคมผู้สูงวัย บ้านแบบไหนโดนใจวัยเกษียณ
บ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยควรเป็นแบบไหน…?   ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ในแง่ของการออกแบบที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุนั้น ก็ย่อมต้องมีความแตกต่างกับที่พักอาศัยแบบทั่วไปอยู่แล้ว โดยที่จะต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ดังนั้นทั้งภายนอกและภายในของที่อยู่อาศัย เน้นการออกแบบตามหลัก “Universal Design” โดยครอบคลุมการใช้งานสำหรับคนทุก ๆ วัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทางลาด ราวจับ บันได และระยะภายในห้องที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้ ที่สำคัญคือการเลือกใช้วัสดุ ในการป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปูพื้น และอุปกรณ์ป้องกันการลื่นล้ม แม้กระทั่ง เฟอร์นิเจอร์ในห้องต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่ต้องเอื้อมหรือก้มเพื่อหยิบจับ ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์เตือนก่อนล้ม เฝ้าระวังสูงวัย/ผู้ป่วย เพื่อลดภาระงานผู้ดูแล   จัดบ้านยังไงให้เหมาะกับผู้สูงอายุ ในขณะที่สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว Clickfindhome ขอนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการออกแบบ และ ตกแต่ง บ้านมือสอง ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ หรือมีข้อไหนที่ควรระมัดระวังบ้างมาฝากกันค่ะ ห้องนอน ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุควรมีช่องหรือกระจกบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีพื้นที่อย่างน้อย 16-20 ตารางเมตร สำหรับทำกิจกรรม หรืองานอดิเรก ส่วนเตียงนอนควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร (ระดับหัวเข่า) และมีพื้นที่รอบๆ มุมเตียง ควรมีวัสดุป้องกันการกระแทก บริเวณหัวเตียงควรติดตั้งปุ่มฉุกเฉินหรือโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ นั่นก็คือ บ้านเดี่ยว ที่ Clickfindhome มีให้เลือกมากมายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังควรเผื่อพื้นที่สำหรัลวีลแชร์โดยต้องมีระยะหมุน 1.5 เมตรด้วย และที่สำคัญที่สุดควรจัดห้องนอนไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน พร้อมมีห้องน้ำในตัวหรืออยู่ใกล้ห้องนอนผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อการใช้งานอันสะดวกสบายค่ะ ห้องน้ำ ห้องน้ำควรกว้างอย่างน้อย 1.5 x 2 เมตร ประตูห้องน้ำกว้างอย่างน้อย 90 ซม. แนะนำว่าควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือบานเปิดออก ระดับพื้นห้องน้ำควรเท่ากับห้องนอน ป้องกันการสะดุดล้มจาก Step ที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือต้องเป็นวัสดุกันลื่น พื้นผิวหยาบ และทำความสะอาดง่าย ควรจะต้องติดตั้งราวจับไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น โถสุขภัณฑ์ บริเวณที่อาบน้ำ เป็นต้น พร้อมทั้งแยกโซนแห้ง / โซนเปียก สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำควรมีลักษณะโค้งมน โค้งเว้า ใช้งานง่าย ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ภายในห้องน้ำควรมีระยะหมุนตัวสำหรับรถเข็นไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตรด้วย สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “แสงสว่าง” ในห้องน้ำ ต้องสว่างเพียงพอ ควรใช้หลอดไฟสีขาว ซึ่งจะทำให้การมองเห็นดีกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ ห้องนั่งเล่น ถือว่าเป็นห้องหลัก สำหรับทุกคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนั้นจึงควรสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย มีพื้นที่โล่ง และไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ควรจัดวางให้ชิดกำแพง ลบมุมให้มีความโค้งเว้า หรือหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก ควรใช้หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นผ่านเข้าไปได้ และสามารถเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ด้วยค่ะ บริเวณบันไดขึ้น-ลง ในบางกรณี ที่มีความจำเป็นหากห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ชั้นบน ซึ่งมีความเสี่ยง ที่อาจสะดุดพลัดตกจากบันได ดังนั้นบ้านผู้สูงอายุจึงควรปรับบันไดให้มีความกว้างที่เหมาะสม ขั้นบันได ควรสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ความกว้างอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ควรมีราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ในระยะ 80 เซนติเมตรจากพื้น และมีแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากนั้น เราขอแนะนำให้ติดตั้ง “ลิฟต์บันได” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในการขึ้น-ลงบ้าน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริเวณรอบบ้าน ทางเข้าบ้านและบริเวณอื่น ๆ พื้นทางเดินควรเรียบ ในกรณีที่มีทางลาดเข้าบ้าน ควรต้องมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 5 องศา หรือ 1:12 คือระยะความสูง 1 เมตร ต้องใช้ความยาวทางลาด 12 เมตร มีพื้นที่ว่างหน้าทางลาดไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ใช้วัสดุพื้นผิวไม่ลื่น มีขอบกั้นและราวจับตลอดแนวทางลาด สำหรับความกว้างทางเดินควรกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็น ผู้สูงอายุเองก็ยังต้องการการผ่อนคลายไม่ต่างจากคนหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไป ดังนั้นควรเลือกบ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบพื้นที่ให้เป็น Universal Design ที่เอื้อให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้อย่างเท่าเทียมกัน แบบบ้านที่ใช่ สิ่งแวดล้อมที่ลงตัว ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 บ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม สำหรับผู้สูงอายุ ควรต้องมีภูมิทัศน์ที่ดี เปิดโล่ง ไม่รู้สึกอึดอัด อากาศถ่ายเทสะดวก สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดี สุขภาพจิตที่ดี ย่อมทำให้ สุขภาพกายแข็งแรงตามด้วยเช่นกัน การเลือกบ้านสักหลัง เพื่อให้ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสังคม ความปลอดภัย บ้านสวยตรงใจ ธรรมชาติที่แสนร่มรื่นได้ทุก ๆ วัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น
04
OCT
เลือกซื้อบ้าน ทาวน์โฮม คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนที่ตอบโจทย์
การซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด สักครั้ง สำหรับบางคนแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เรื่องหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นบ้านหลังแรกแล้ว คำถามที่ตามมา จะเริ่มต้นจากตรงไหน? แล้วอสังหาฯ แบบไหน คือสิ่งที่คุณต้องการ Clickfindhome ได้รวบรวมข้อมูลสำหรับ ใครที่กำลังจะซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตของคุณ   อสังหาฯ ประเภทไหน ที่ตรงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด โดยหลักๆ จะแบ่งได้ 4 ประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด เหมาะสำหรับคู่รัก ครอบครัวขนาดเล็ก จนไปถึงครอบครัวขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ดิน เริ่มต้น 50 ตร.วา ขึ้นไป มีความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยมาก กว้างขวาง โปร่งสบาย ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแบบอื่น ๆ ซึ่งตามกฏหมายนั้น บ้านเดี่ยวจะต้องสร้างอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป มีการเว้นระยะห่างของตัวบ้านทุกด้านไม่ต่ำกว่า 2 เมตร มีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ กิจกรรมกลางแจ้ง ได้ให้สามารถออกกำลังกายกันได้ มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่น มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร บ้านแฝด บ้านแฝดจะมีผนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านติดกับบ้านอีกหลัง และอีกด้านของบ้านจะเป็นที่ว่างที่เว้นระยะจากบ้านข้างเคียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร มีเนื้อที่ดิน ไม่ต่ำกว่า 35 ตร.วา แต่ไม่เกิน 50 ตร.วา ทำให้ดูคล้าย ๆ ว่าเป็นบ้าน 2 หลังที่อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่มีพื้นที่น้อยกว่า มีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบ้านเดี่ยว มีหน้ากว้างอย่างต่ำ 8 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้พื้นที่ใช้สอย ใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยว ซึ่งบ้านแฝดมี 4 ประเภท โดยมีการแบ่งตามลักษณะของโครงสร้างดังนี้ บ้านแฝดที่มีผนังร่วมกัน รูปแบบบ้านแฝดลักษณะนี้จะออกแบบให้มีโครงสร้างผนังด้านใดด้านหนึ่งติดกัน บ้านแฝดที่มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านร่วมกัน สำหรับโครงสร้างบ้านแฝดนี้ จะออกแบบตัวแบบบ้านให้มีฟังก์ชันส่วนหนึ่งของบ้านติดกัน เช่น ส่วนของคานด้านบน หรือส่วนของหลังคาโรงจอดรถ บ้านแฝดที่มีคานใต้ดินเชื่อมต่อกัน ออกแบบให้มีคานบริเวณใต้ดินเชื่อมต่อกัน ส่วนด้านบนจะไม่มีส่วนไหนเชื่อมต่อกันเลย จึงทำให้มองเผินๆ เหมือนบ้านเดี่ยว แต่แตกต่างตรงที่พื้นที่ตัวบ้านจะไม่ถึง 50 ตร.วา บ้านแฝดที่มีคานด้านบนเชื่อมต่อกัน จะมีส่วนคานด้านบนและบริเวณโรงจอดรถเชื่อมต่อกัน ทำให้มีข้อดีคือได้พื้นที่ใช้สอยรอบบ้านเพิ่มมากขึ้น   ทาวน์โฮม รูปแบบบ้านที่ผนังทั้ง 2 ด้าน ติดกับบ้านหลังอื่น ส่วนที่เป็นรั้วมักจะเป็นปิดแค่หน้าบ้านเท่านั้น มีดีไซน์ทันสมัย มักมีการวางผังพื้นที่ใช้สอยให้คล้ายคลึงกับบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยมากกว่าทาวน์เฮ้าส์ มีให้เลือกทั้ง 2-3 ชั้น และมีพื้นที่ด้านหน้าบ้านกว้างขวาง ประมาณ 5-5.7 เมตร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และนอกจากนี้ ในหลาย ๆ โครงการของ ทาวน์โฮมยังมีพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำให้บริการอีกด้วย ทาวน์เฮ้าส์ จะมีลักษณะคล้ายกับทาวน์โฮมคือ ผนังบ้านจะติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝั่ง และมีจำนวนบ้านอยู่ติดกันตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีพื้นที่หน้าบ้านจะกว้างประมาณ 4-5 เมตร เท่านั้น และมีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ส่วนกลางคอยให้บริการ จึงทำให้ทาวน์เฮ้าส์หลายๆ ที่มีราคาค่อนข้างต่ำนั่นเอง คอนโดมิเนียม เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยทำเลใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้แนวรถไฟฟ้า มีหลากหลายราคา ตามทำเลและขนาดห้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส หรือบริการส่วนกลางต่าง ๆ หรือต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในอนาคต ทำเล ที่ใช่สำหรับคุณ การเลือกซื้อบ้านสักหลัง ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจัยสำคัญที่เราต้องนึกถึงนอกจากดีไซน์ พื้นที่ ฟังก์ชัน หรือราคา ทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ลองมาดูกันว่าวิธีการเลือกทำเลให้ลงตัวกับชีวิต มีอะไรบ้าง? ทำเลดี เดินทางสะดวก ที่ต้องคำนึงถึงเป็นที่สุด คือ ระยะทางในการเดินทาง ไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ดังนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดฯ อาจจะต้องอยู่ใกล้สถานที่เหล่านี้ เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ดีที่สุด อันดับต่อไปนั่นก็คือ ความสะดวกในการเดินทาง เส้นทางคมนาคม รถสาธารณะต่าง ๆ เข้าถึงหรือไม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาถึงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า หรือทางด่วน เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในปัจจุบันก็คือ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือโรงพยาบาล ก็ถือเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเช่นกัน จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว วันนี้ Clickfindhome ของเรามีบ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง คอนโดมือสอง มากกว่า 10,000 รายการ เพื่อนำเสนอบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าน์ คอนโด ที่ดิน และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ทำเลและราคาที่คุ้มค่า เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลย่านกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรีและอื่นๆ อีกมากมาย ให้ได้ดีที่สุด บรรยากาศดี อากาศดี เงียบสงบ สภาพแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัย รู้สึกผ่อนคลายและมีสุขภาพใจที่ดี ดังนั้นแล้วสิ่งแวดล้อม อากาศ รวมไปถึงเสียงรบกวนต่าง ๆ ก็ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด บ้านในเมือง หรือ บ้านชานเมือง แบบไหนที่ตอบโจทย์! การเลือกซื้อบ้าน สิ่งที่หลายๆ คนคิดไม่ตก ว่าจะเลือกซื้อบ้านแบบไหน ในทำเลใด เลือกซื้อบ้าน คอนโด ยังไงให้ตรงใจ ทำเลแบบไหนคือแบบที่ใช่..วันนี้เรามีข้อมูลมาให้คุณแล้ว บ้านในเมือง มักจะอยู่ใกล้กับแหล่งออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า การเดินทางสะดวก เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เติบโตอย่างรวดเร็ว เหมาะกับการลงทุน แต่สิ่งที่คุณจะได้รับนั่นก็คือ บ้านในเมืองมักจะมีพื้นที่สีเขียวน้อยกว่า สภาพแวดล้อมวุ่นวาย ความเป็นส่วนตัวน้อย มีเสียงดังรบกวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถยนต์บนท้องถนน การจราจรติดขัด มีความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะแตกต่างจาก บ้านชานเมือง อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบกว่า มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า ไม่วุ่นวายจากความเร่งรีบ หมดปัญหาเรื่องรถติด บริหารเวลาได้อย่างลงตัว แต่ก็ต้องเดินทางไกล ใช้ระยะเวลามากกว่า สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ครบครันเท่าบ้านในเมือง การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง คอนโดมือสอง สักหลังคงจะไม่มีคำตอบที่ว่าถูกหรือผิด! ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงความสามารถทางการเงินของคุณด้วยนั่นเอง เพราะบ้านหลังนี้ จะเต็มไปด้วยความสุข และความทรงจำดีๆ ของคุณตลอดไป ราคาขายต่อที่ดี ในอนาคต ซึ่งหากพื้นที่ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเจริญมากขึ้นในอนาคต เช่น โครงการรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้มูลค่าของบ้านในบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอนาคตแน่นอน หลายปีที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรปราการ มีแนวโน้มความเจริญที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และการเดินทางที่สะดวกใกล้แหล่งเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ สมุทรปราการเป็นเมืองที่มีความเจริญและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
04
OCT
ดอกเบี้ยบ้าน อัพเดทล่าสุด สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร ตุลาคม 2567
ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร  สำหรับผู้ซื้อบ้านมือหนึ่ง มือสอง และผู้ซื้อบ้านหลังแรกในราคาดอกเบี้ยบ้านต่ำ สินเชื่อบ้านธนาคารไหนดีที่สุด 2567 ปีล่าสุด เพื่อเปรียบเทียบและพร้อมอธิบายดอกเบี้ยบ้านแต่ละธนาคารอย่างชัดเจน  ใช้หลักเกณฑ์ในการทำสินเชื่อจากปัจจัยใดบ้าง มีการคำนวณจำนวนเงินในการผ่อนดอกเบี้ยบ้าน ช่วง 1-3 ปีแรก เท่าไหร่ให้ผู้ซื้อบ้านสามารถเข้าใจง่ายๆ ได้ในบทความนี้ อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ บ้าน-คอนโด ปี 2567 Clickfindhome.com ได้เปรียบเทียบดอกเบี้ยบ้าน 8 ธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยบ้านประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโด ที่มีเงื่อนไขในการกู้เงินซื้อบ้านจำนวนวงเงินสูงสุดที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบสินเชื่อบ้านที่น่าสนใจ ของแต่ละธนาคาร ดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2567 สินเชื่อบ้าน กู้ซื้อทุกธนาคาร จะกู้ซื้อบ้านธนาคารไหนดี? แต่ละธนาคารมีรูปแบบสินเชื่อ ที่น่าสนใจ รูปแบบไหนบ้าง และเหมาะกับใคร ถึงจะได้ดอกเบี้ยไฟแนนซ์ที่ “ถูกที่สุด” ที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้จ่ายค่าดอกเบี้ยบ้านเปอร์เซ็นต์ (%) น้อยที่สุด :ซึ่งทาง The Best Property ได้จัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน และรูปแบบสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคาร มาไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว มีดังนี้ 1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส (G H Bank)  สินเชื่อนโยบายรัฐ โครงการ สินเชื่อบ้าน Happy Home ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1-5 = 3.00% โดยให้ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท ต่อรายต่อหลักประกัน โดยกำหนดระยะเวลากู้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้นข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี และกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 และทำนิติกรรมจนกว่าสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สินเชื่อ Mild Home ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.90% ต่อปี ระยะเวลากู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 2,500 บาทเท่านั้น! ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแตวันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ 1.95% ต่อปี, ปีที่ 2-3 คงที่เท่ากับ 3.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98% เท่านั้น) และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี , ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และกรณีชำระหนี้ฯ เท่ากับ MRR ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.545% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดปีแรกเพียงล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน เท่านั้น! โดย ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อดังกล่าวจำนวน 11,228 ล้านบาท เกินกรอบวงเงินที่กำหนด 10,000 ล้านบาทแล้ว ธอส.จึงปรับเพิ่มกรอบวงเงินสินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 อีก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 2. ธนาคารออมสิน (GSB) สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.95% เฉลี่ย 3 ปี 2.95% พร้อมทางเลือกเงินงวดผ่อนชำระปีที่ 1 ล้านละ 2,500 บาทต่อเดือน ปีที่ 2 ล้านละ 3,500 บาทต่อเดือน และปีที่ 3 ล้านละ 4,500 บาทต่อเดือน หลังจากนั้น 8,200 บาทต่อเดือนสำหรับกรณีผู้กู้ประสงค์ ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อโดยวงเงินกู้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด โดยมีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 30 ธ.ค. 2567 หรือจนกว่าครบวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 30 ม.ค. 2568 สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง ช่วยสานฝันเรื่องบ้านให้เป็นจริงด้วยเงื่อนไขสบายๆ ธนาคารออมสินเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความต้องการมีบ้าน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตที่ดี จึงมุ่งส่งเสริมและช่วยสานฝันของท่านให้เป็นจริง ด้วยเงื่อนไขสบายๆ และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จบทุกความต้องการเรื่องบ้านที่เดียวครบ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 1.800% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) เฉลี่ย 3 ปี 4.795% จำนวนเงินให้กู้ ให้กู้กรณีเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย รวมถึงกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย และกรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย รวมกันสูงสุดไม่เกินร้อยละ 110 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า *ทั้งนี้ เป็นไปตามเกณฑ์การพิจารณาที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาชำระเงินกู้ กรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย ไม่เกิน 40 ปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินระยะเวลาชำระเงินกู้ตามกรณีกู้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัย กรณีกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ/หรือกรณีที่มีการกู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ไม่เกิน 30 ปี สำหรับ สินเชื่อเคหะทั่วไป สินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และสินเชื่อ GSB Green Home Loan บ้านประหยัดพลังงาน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.795% กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ และมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก = 5.295% กรณีผู้กู้ไม่ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 รูปแบบให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 110% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.595% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567) 3. ธนาคารกรุงไทย (KTB) สินเชื่อบ้านแทนคุณ มีเอกสารดูแลพ่อแม่ เช่น ทะเบียนบ้านร่วมกัน การหักลดหย่อนภาษี กรรมธรรม์ประกัน เป็นต้น สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน ปลูกสร้างบ้าน และสำหรับรีไฟแนนซ์ จากสถาบันการเงินอื่น มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.57% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ย เดือนที่ 1-4 = 1.44% เดือนที่ 5-12 = 2.44% และปีที่ 2-3 = 4.30% โดยทางธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 100% และระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยใหม่, ซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง, เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้านในคราวเดียวกัน คงที่ 3 ปี เริ่มต้นปีแรก 1.59% ต่อปี* เลือกผ่อนต่ำได้* ธนาคารออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ ระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี สินเชื่อบ้านกรุงไทย เฉลิมฉลองครบรอบ 58 ปี กู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง และกู้สร้างบ้าน สูงสุด 40 ปี ดอกเบี้ยกู้บ้านคงที่ 3 ปี เริ่มต้น 1.58% ต่อปี นาน 7 เดือน* เลิอกผ่อนต่ำ ล้านละ 2,800 บาท/เดือน นาน 7 เดือน วงเงินกู้ซื้อบ้านสูงสุด 100% อ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566) 4. ธนาคารยูโอบี (UOB) สินเชื่อบ้านยูโอบี (UOB Home Loan) สินเชื่อที่ธนาคารให้กู้ยืม หรือการกู้เงินจากธนาคาร เพื่อนำไปซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด หรือปลูกสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ กู้ซื้อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง อนุมัติวงเงินกู้สูงสุด 100% กรณีซื้อบ้านใหม่ วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 95-100% สำหรับต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาซื้อขาย แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) กรณีซื้อบ้านมือสอง วงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 80-90% สำหรับ ต่างจังหวัด (กรณีคอนโดมิเนียมวงเงินกู้สูงสุด 95-100% ของราคาประเมิน และ 75-90% สำหรับต่างจังหวัด) อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 4.55% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกัน MRTA) เฉลี่ย 3 ปี 4.55% กรณีเพื่อก่อสร้างบ้าน วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมินที่ดินรวมกับค่าก่อสร้างบ้าน (70% ของราคาประเมินที่ดิน บวก 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างบ้าน) เลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้นานสูงสุด 30 ปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท (15 - 30 ล้านบาท สำหรับต่างจังหวัด) สำหรับลูกค้าที่ยื่นคำขอสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 – 28 มิ.ย. 67 และ จดจำนองหลักประกันกับธนาคารภายในวันที่ 31 ก.ค. 67 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 8.80% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566) 5. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งต่ำ วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่* หรือวงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินสำหรับบ้านมือสอง สบายๆ กับการผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี) *สำหรับซื้อบ้านใหม่ในโครงการ Top Group / Super Prime 1-A (วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย/ราคาประเมิน บวกวงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย เกณฑ์การพิจารณาให้วงเงินเพิ่ม 10% เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด) ดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.50%* ประเมินหลักประกัน** /  ค่าจดจำนอง *** ฟรี ส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% **** * สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 6 ต.ค. 66 = 7.40% ต่อปี ทั้งนี้อัตรา ** ฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท (วันที่ 1 พ.ค. 67 - 31 ส.ค. 67) *** ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้อนุมัติ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด และเลือกดอกเบี้ยทางเลือกฟรีค่าจดจำนองเท่านั้น **** เฉพาะปีที่ 1 เมื่อซื้อประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา  อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566) 6. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านมือสอง หรือบ้านหลุดจำนองของธนาคาร ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า สภาพดี ทำเลดี ราคาพิเศษ วงเงินกู้ยืมสูงสุด 95% อายุสัญญา 20 ปี ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี การพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าทั่วไป อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 MRR – 0.045% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 7.255% พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยสําหรับลูกค้าซื้อทรัพย์ NPA/NPL ของธนาคารเฉพาะโครงการที่กําหนด อัตราดอกเบี้ยคงที่ปี 1-3 3.79% (กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ Credit Life) เฉลี่ย 3 ปี 3.79% อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566​) 7. ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) สินเชื่อบ้าน เพื่อกู้ซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง คอนโด สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อคอนโด กู้ปลูกสร้างบ้าน สมัครง่าย วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 100,000 บาท/เดือน กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ กลุ่มลูกค้าประกอบวิชาชีพพิเศษ* ไม่จำกัดระดับรายได้ กู้ได้ไม่เกิน 100% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด พิเศษสำหรับลูกค้าทั่วไป กู้ซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสอง รายได้สุทธิแค่เดือนละ 15,000 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) กู้ซื้อบ้านได้ไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินตนเอง (ปลอดภาระ) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.99% ปีแรก (ทำประกันตามเงื่อนไข) สำหรับกู้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง(ปลอดภาระ) กำหนดวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาค่าก่อสร้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินที่ดินและราคาประเมินแบบสิ่งปลูกสร้าง ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ผ่อนได้นานจนถึงอายุ 70 ปี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคาร รายได้ประจำ ผู้ประกอบการ อาชีพอิสระ ก็ยื่นกู้ซื้อบ้านได้ สำหรับลูกค้าที่สมัครตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 – 30 มิถุนายน 2567 และจดจำนองภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566​) 8. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) สินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าทั่วไป ให้บ้านในฝันกลายเป็นจริงได้ ด้วยทางเลือกหลากหลายกับอัตราดอกเบี้ยที่ลงตัวเพื่อคุณ วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกันวงเงินกู้เพิ่มเติมจากวงเงินสูงสุดเพื่อซื้อประกันชีวิตคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ และประกันอัคคีภัยระยะยาว ผ่อนสบายนานสูงสุด 30 ปี(เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่ ค่าประเมินหลักประกัน ขั้นต่ำ 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อทั้งนี้ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และจำนวนของหลักประกัน อ้างอิงตามประกาศธนาคารในเว็บไซต์ หรือประกาศ ณ สาขา อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)
05
OCT
ส่องเทรนด์สังคมผู้สูงวัย บ้านแบบไหนโดนใจวัยเกษียณ
บ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยควรเป็นแบบไหน…?   ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ในแง่ของการออกแบบที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุนั้น ก็ย่อมต้องมีความแตกต่างกับที่พักอาศัยแบบทั่วไปอยู่แล้ว โดยที่จะต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ดังนั้นทั้งภายนอกและภายในของที่อยู่อาศัย เน้นการออกแบบตามหลัก “Universal Design” โดยครอบคลุมการใช้งานสำหรับคนทุก ๆ วัย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทางลาด ราวจับ บันได และระยะภายในห้องที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้ ที่สำคัญคือการเลือกใช้วัสดุ ในการป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น วัสดุปูพื้น และอุปกรณ์ป้องกันการลื่นล้ม แม้กระทั่ง เฟอร์นิเจอร์ในห้องต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่อยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่ต้องเอื้อมหรือก้มเพื่อหยิบจับ ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์เตือนก่อนล้ม เฝ้าระวังสูงวัย/ผู้ป่วย เพื่อลดภาระงานผู้ดูแล   จัดบ้านยังไงให้เหมาะกับผู้สูงอายุ ในขณะที่สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว Clickfindhome ขอนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการออกแบบ และ ตกแต่ง บ้านมือสอง ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ หรือมีข้อไหนที่ควรระมัดระวังบ้างมาฝากกันค่ะ ห้องนอน ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุควรมีช่องหรือกระจกบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีพื้นที่อย่างน้อย 16-20 ตารางเมตร สำหรับทำกิจกรรม หรืองานอดิเรก ส่วนเตียงนอนควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร (ระดับหัวเข่า) และมีพื้นที่รอบๆ มุมเตียง ควรมีวัสดุป้องกันการกระแทก บริเวณหัวเตียงควรติดตั้งปุ่มฉุกเฉินหรือโทรศัพท์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย ตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ นั่นก็คือ บ้านเดี่ยว ที่ Clickfindhome มีให้เลือกมากมายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังควรเผื่อพื้นที่สำหรัลวีลแชร์โดยต้องมีระยะหมุน 1.5 เมตรด้วย และที่สำคัญที่สุดควรจัดห้องนอนไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน พร้อมมีห้องน้ำในตัวหรืออยู่ใกล้ห้องนอนผู้สูงอายุมากที่สุด เพื่อการใช้งานอันสะดวกสบายค่ะ ห้องน้ำ ห้องน้ำควรกว้างอย่างน้อย 1.5 x 2 เมตร ประตูห้องน้ำกว้างอย่างน้อย 90 ซม. แนะนำว่าควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือบานเปิดออก ระดับพื้นห้องน้ำควรเท่ากับห้องนอน ป้องกันการสะดุดล้มจาก Step ที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือต้องเป็นวัสดุกันลื่น พื้นผิวหยาบ และทำความสะอาดง่าย ควรจะต้องติดตั้งราวจับไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น โถสุขภัณฑ์ บริเวณที่อาบน้ำ เป็นต้น พร้อมทั้งแยกโซนแห้ง / โซนเปียก สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำควรมีลักษณะโค้งมน โค้งเว้า ใช้งานง่าย ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ภายในห้องน้ำควรมีระยะหมุนตัวสำหรับรถเข็นไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตรด้วย สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “แสงสว่าง” ในห้องน้ำ ต้องสว่างเพียงพอ ควรใช้หลอดไฟสีขาว ซึ่งจะทำให้การมองเห็นดีกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ ห้องนั่งเล่น ถือว่าเป็นห้องหลัก สำหรับทุกคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนั้นจึงควรสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย มีพื้นที่โล่ง และไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ควรจัดวางให้ชิดกำแพง ลบมุมให้มีความโค้งเว้า หรือหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทก ควรใช้หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร และที่สำคัญต้องมีเนื้อที่พอ ที่จะสามารถนำรถเข็นผ่านเข้าไปได้ และสามารถเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ด้วยค่ะ บริเวณบันไดขึ้น-ลง ในบางกรณี ที่มีความจำเป็นหากห้องนอนผู้สูงอายุอยู่ชั้นบน ซึ่งมีความเสี่ยง ที่อาจสะดุดพลัดตกจากบันได ดังนั้นบ้านผู้สูงอายุจึงควรปรับบันไดให้มีความกว้างที่เหมาะสม ขั้นบันได ควรสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ความกว้างอย่างน้อย 30 เซนติเมตร ควรมีราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ในระยะ 80 เซนติเมตรจากพื้น และมีแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากนั้น เราขอแนะนำให้ติดตั้ง “ลิฟต์บันได” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในการขึ้น-ลงบ้าน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ บริเวณรอบบ้าน ทางเข้าบ้านและบริเวณอื่น ๆ พื้นทางเดินควรเรียบ ในกรณีที่มีทางลาดเข้าบ้าน ควรต้องมีทางลาดที่มีความชันประมาณ 5 องศา หรือ 1:12 คือระยะความสูง 1 เมตร ต้องใช้ความยาวทางลาด 12 เมตร มีพื้นที่ว่างหน้าทางลาดไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร ใช้วัสดุพื้นผิวไม่ลื่น มีขอบกั้นและราวจับตลอดแนวทางลาด สำหรับความกว้างทางเดินควรกว้างอย่างน้อย 90 เซนติเมตร เพื่อรองรับการใช้รถเข็น ผู้สูงอายุเองก็ยังต้องการการผ่อนคลายไม่ต่างจากคนหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไป ดังนั้นควรเลือกบ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม ที่มีการออกแบบพื้นที่ให้เป็น Universal Design ที่เอื้อให้คนทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้อย่างเท่าเทียมกัน แบบบ้านที่ใช่ สิ่งแวดล้อมที่ลงตัว ส่องเทรนด์ “วัยเกษียณ” บ้านตอบโจทย์ผู้สูงอายุ ปี 2567 บ้าน คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮม สำหรับผู้สูงอายุ ควรต้องมีภูมิทัศน์ที่ดี เปิดโล่ง ไม่รู้สึกอึดอัด อากาศถ่ายเทสะดวก สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดี สุขภาพจิตที่ดี ย่อมทำให้ สุขภาพกายแข็งแรงตามด้วยเช่นกัน การเลือกบ้านสักหลัง เพื่อให้ตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสังคม ความปลอดภัย บ้านสวยตรงใจ ธรรมชาติที่แสนร่มรื่นได้ทุก ๆ วัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น